MGR Online - "ดีเอสไอ" เรียก อดีตเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. แจ้งข้อหา ม.157 คดีทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ กับพวก รวม 5 ราย
วันนี้ (13 มิ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ 12 มิ.ย. นายภาณพ (สงวนนามสกุล) อดีตเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรกระบี่ เดินทางมาพบ ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ทับสาร รองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ นายนพรัตน์ ปานเทศ พนักงานสอบสวน คดีพิเศษชำนาญการพิเศษ และนายทศพร โพธิ์ศรีทอง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/2567 ตามหมายเรียกผู้ต้องหาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา กรณีการทุจริตในชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด
โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/2566 ได้แจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำที่กล่าวหาว่า นายภาณพ ผู้ต้องหาได้กระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2561 มาตรา 172”
นอกจากนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษยังได้แจ้งข้อกล่าวหา กรรมการและผู้ดำเนินการของบริษัท กระบี่วิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัด จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายนิธินัย (สงวนนามสกุล) , นายสำเริง (สงวนนามสกุล) , นายจอม (สงวนนามสกุล) และ นายยุทธนา (สงวนนามสกุล) รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 5 ราย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฎิเสธทุกราย
อย่างไรก็ตาม คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงได้เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 ราย ให้ข้อเท็จจริงและชี้แจงพยานหลักฐานที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยผู้ถูกกล่าวหา ทั้ง 5 นาย จะทำคำชี้แจงและยื่นส่งเอกสารหลักฐานต่อคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษภายใน 30 วัน
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 215/2565 จากการสอบสวนพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริต จึงได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 61 วรรคสองซึ่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษอนุมัติให้รับเป็นคดีพิเศษที่ 56/2566และมอบหมายให้กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการสอบสวนตามกฎหมาย