ตำรวจทางหลวงสกัดจับแก๊งรีดทรัพย์ อ้างตัวแทนพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ปราบอิทธิพล ก่อนอุ้มหนุ่มสุรินทร์เรียกค่าไถ่ 1 ล้านบาท พบประวัติก่อเหตุมาแล้วโชกโชน
วันนี้ ( 11 มิ.ย.) พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. สั่งการ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สิทธิใหญ่ ผกก.6 บก.ทล. พ.ต.ท.ศราวุธ ทองน้อย สว.ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. จับกุมนายบรรณสิทธิ์ วงษ์นาค อายุ 26 ปี , นายกริชชัย สุวรรณรัตนกิจ อายุ 26 ปี และ นายจี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง” ได้ริมถนนมิตรภาพ ทล.2 ช่วง กม.50 ฝั่งขาเข้า กทม. ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ทั้งนี้เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้รับแจ้งจากตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ว่า มีกลุ่มคนร้ายเป็นชาย 3 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่พรรคก้าวไกล ทำทีเข้ามาตรวจสอบเรื่องผู้มีอิทธิพล และ ลักลอบขายใบกระท่อม ก่อนก่อเหตุอุ้มลักพาตัว นายตระการ โภชน์สาลี อายุ 23 ปี ขึ้นรถกระบะอีซูซุสีดำ ทะเบียนจังหวัดฉะเชิงเทรา แล้วขับหลบหนีมุ่งหน้าเข้ามาในพื้นที่จ.นครราชสีมา หลังรับเรื่องจึงกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางต่าง ๆ กระทั่งพบรถต้องสงสัยตรงตามที่ได้รับแจ้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ อ.ปากช่อง จึงนำกำลังสกัดจับ ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย พร้อมให้การช่วยเหลือ นายตระการ เหยื่อที่ถูกอุ้มได้ดังกล่าว
จากการสอบถาม นายตระการ ผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนอยู่ที่ร้านขายของ ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้ขับรถมาจอดบริเวณหน้าร้าน ก่อนทำทีเข้ามาพูดคุย พร้อมอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของพรรคก้าวไกล ได้รับมอบหมายให้มาตรวจสอบเรื่องผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จ.สุรินทร์ จากนั้นก็อ้างว่ามีข้อมูลว่าตนลักลอบขายใบกระท่อม พร้อมพูดข่มขู่ว่าหากไม่อยากถูกดำเนินคดี จะต้องยอมจ่ายเงินจำนวน 1 ล้านบาท ตนจึงอ้างว่ามีเงินเพียง 5 แสนบาท หากจะเอาเงินเพิ่มตนต้องไปเอาเงินสดที่แฟนสาว แต่กลุ่มชายดังกล่าวไม่ยอม ก่อนจะกระชากแขนตัวเองขึ้นรถกระบะ แล้วขับมุ่งหน้าเตรียมจะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ
นายตระการ บอกอีกว่า อย่างไรก็ตามขณะที่ตนถูกคุมตัวอยู่ในรถนั้น กลุ่มคนร้ายยังใช้โทรศัพท์มือถือของตน ส่งข้อความไปหาแฟนสาว ในเชิงข่มขู่ว่าจะทำร้ายตนหากไม่โอนเงินให้ ด้วยความกลัวว่าจะเกิดอันตรายแฟนสาว จึงรีบนำเรื่องเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสุรินทร์ ก่อนมีการประสานตำรวจทางหลวง สกัดจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมกับให้การข่วยเหลือตนจนปลอดภัยได้ดังกล่าว
จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย เบื้องต้น นายบรรณสิทธิ์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว ส่วน นายกริชชัย และ นายจี นั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่า ทั้งสามมีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทำผิดร่วมกัน อีกทั้งยังพบประวัติเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จึงนำตัวส่ง สภ.เมืองสุรินทร์ ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการคนอื่นที่คาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป