ตำรวจสืบสวนนครบาลจับหนุ่มผู้ต้องหาหลอกชาวต่างชาติ รับทำหนังสือเดินทางเปลี่ยนสัญชาติเป็นคนไทย เหยื่อสูญเงิน 1.9 ล้านบาท
วันนี้ (8 มิ.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยเจ่าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ชุดปฏิบัติการที่ 3 ร่วมกันจับกุมตัว นายธนิตพงศ์ อายุ 48 ปี ภูมิลำเนา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เป็นบุคคลตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ที่ 171/2567 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ จับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถคอนโดหรู ย่านรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.
โดยพฤติการณ์กล่าวคือ ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้เสียหายพักอาศัยอยู่ที่บ้านในกรุงเทพมหานครได้รับคำแนะนำว่า สามารถทำพาสปอร์ตสัญชาติไทยได้โดยติดต่อกับนายธนิตพงศ์ ซึ่งติดต่อกันโดยได้เก็บค่าดำเนินการ เป็นจำนวนเงิน 600,000 บาท เป็นค่ามัดจำในการทำพาสปอร์ต ผู้เสียหายจึงได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารชื่อบัญชี TENGYONG เป็นจำนวนเงิน 600,000 บาท เมื่อวันที่ 6 ต.ค.66 ต่อมานายธนิตพงศ์ ได้แจ้งว่าถ้าอยากดำเนินการเร็วขึ้นต้องเพิ่มเงิน จึงได้โอนเงินไปยัง บัญชีธนาคารชื่อบัญชี TENGYONG เป็นจำนวนเงิน 1,300,000 บาท เมื่อวันที่ 19 ต.ค.66 รวมเป็นจำนวนเงิน 1,900,000 บาท
ต่อมาไม่สามารถติดต่อกับนายธนิตพงศ์ได้ จึงเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกลวง ทำให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
หลังถูกจับกุม ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ก่อนช่วงโควิดตนรับทำหนังสือเดินทางและเปลี่ยนสัญชาติให้กับต่างชาติที่อยากได้สัญชาติไทย สามารถทำให้กับต่างชาติที่ร้องเพลงชาติไม่ได้ เขียนภาษาไทยไม่ได้ ไม่มีคู่สมรสเป็นคนไทย ให้สามารถได้สัญชาติไทยได้ โดยจะเก็บค่าดำเนินการจำนวน 2.5 ล้านต่อคน ต่อมารัฐบาลไทยได้ปราบปรามคนจีนสีเทาที่มีสัญชาติไทย จึงทำให้ตนไม่สามารถดำเนินการแบบเดิมได้ ประกอบกับตนถูกฟ้องล้มละลาย จึงออกอุบายให้กับกลุ่มคนที่สนใจและเชื่อว่าตนยังทำแบบเดิมได้อยู่ เก็บเงินมาใช้จ่าย เมื่อถึงกำหนด ตนไม่สามารถดำเนินการได้จึงถูกผู้เสียหายแจ้งดำเนินคดี หลังจากถูกจับกุมตนจึงรู้ว่าบิดาของตนถูกออกหมายจับด้วย จึงขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว เพราะเอาบัญชีธนาคารของบิดามาใช้ บิดาตนไม่รู้เรื่องแต่อย่างใดสาเหตุที่เอาบัญชีมาใช้เนื่องจากตนถูกฟ้องล้มละลาย กลัวถูกยึดเงินที่ฉ้อโกงไป
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพมีทุกรูปแบบและพัฒนาการอยู่ตลอดเวลา ขอให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างมีสติ อย่าหลงเชื่อการหลอกลวงจากมิจฉาชีพในการขอสัญชาติไทย โดยทางกรมการปกครอง ได้มีประกาศว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการขอสัญชาติไทยและการตรวจคุณสมบัติของผู้ขอมีสัญชาติไทย ดังนั้นการขอสัญชาติไทยจะต้อง ถือปฏิบัติตามประกาศกรมการปกครอง ขอให้ผู้มีความประสงค์ขอสัญชาติไทยได้พิจารณาอย่างละเอียด รอบคอบ อย่าได้หลงเชื่อมิจฉาชีพ ผู้แสวงหาผลประโยชน์ จนเป็นเหตุให้สูญเสียซึ่งทรัพย์สินใดๆ