xs
xsm
sm
md
lg

ทลายแก๊ง "เจ๊ก้อย โคราช" ปลอมเอกสารหลอกไฟแนนซ์ออกรถ เสียหาย 20 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจ บช.ก.ทลายแก๊ง "เจ๊ก้อย โคราช" พร้อมพวกรวม 29 ราย ร่วมกันปลอมเอกสาร ยื่นขอสินเชื่อไฟแนนซ์ออกรถแล้วเชิดหนี เสียหายกว่า 20 ล้าน

วันนี้ ( 7 มิ.ย. ) ที่ กองปราบปรามพล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.สุพจน์ น้อยสวรรค์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ป. พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป. และ ตัวแทนจากธนาคารเกียรตินาคิน ร่วมกันแถลงผล ตำรวจ บก.ป. ,บก.ปคม., บก.ทล. และชุดปราบปรามโจรกรรมรถ บช.ก. เปิดปฏิบัติการ “ทลายขบวนการเต็นท์รถ ปลอมเอกสารหลอกกู้ไฟแนนซ์รถยนต์” นำกำลังกว่า 240 นาย เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 26 จุด ทั่วประเทศสามารถจับกุม น.ส.ทิพย์นิดา หรือก้อย วงศ์ศิริขวัญ อายุ 41 ปี กับพวกรวม 29 คน ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง,ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม,ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม” โดยจับกุม น.ส.ทิพย์นิดา ผู้ต้องหาตัวการสำคัญได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ม.10 ต.โคกสูง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมตรวจยึด เครื่องคอมพิวเตอร์, โน๊ตบุ๊ค, โทรศัพท์มือถือ, สัญญาการเช่าซื้อ พร้อมสำเนาคู่มือ, รายการเดินบัญชีเช่าซื้อรถยนต์ เอกสารเกี่ยวกับรถหลายรายการ, แผ่นป้ายทะเบียน 80 ป้าย ในจำนวนนี้พบ 8 ป้าย เป็นป้ายทะเบียนปลอม ขณะเดียวกันยังได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำผิดอีก 24 คัน

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า เมื่อเดือน มิ.ย. 66 ธนาคารเกียรตินาคิน ได้ส่งตัวแทนเข้าร้องทุกข์ ว่า ถูกกลุ่มคนร้ายนำเอกสารปลอมมายื่นขอสินเชื่อรถยนต์ จนหลงเชื่ออนุมัติสินเชื่อให้ไป ก่อนจะเบี้ยวค้างชำระค่างวดรถ จนสร้างความเสียหายเป็นเงินรวมกว่า 20 ล้านบาท ทั้งนี้จากการตรวจสอบเอกสารและรายละเอียดต่าง ๆ พบว่ามีผู้ใช้เอกสารปลอมมายื่นขอสินเชื่อรวม 34 ราย

พ.ต.ท.ภาณุมาศ กล่าวว่า หลังรับเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส ก่อนพบว่ามีการทำกันเป็นขบวนการ โดยมี น.ส.ทิพย์นิดา อดีตพนักงานลูกจ้างชั่วคราวการเงินและงบประมาณของหน่วยงานราชการ ที่ปัจจุบันผันตัวมาประกอบอาชีพค้าขายรถยนต์มือสอง อยู่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เป็นตัวการสำคัญร่วมกับผู้ที่ต้องการจะเช่าซื้อรถ ทำเอกสารปลอม อาทิ หนังสือรับรองทำงานราชการ หนังสือรับรองเงินเดือน และรายการเดินบัญชีธนาคารให้สอดคล้องกับรายการรับเงินเดือนของผู้เช่าซื้อ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือว่าผู้เช่าซื้อมีคุณลักษณะตรงตามหลักเกณฑ์ มีอาชีพหลักจริงและรายได้เพียงพอที่จะผ่อนชำระค่างวดให้กับธนาคารได้ ก่อนนำเอกสารที่ทำปลอมขึ้นมาไปยื่นขอสินเชื่อต่อธนาคาร

พ.ต.ต.อาธิรัตน์ กล่าวเสริมว่า จากการตรวจสอบไปยังหน่วยงานราชการที่ออกหนังสือรับรอง พบว่าเป็นเอกสารที่ปลอมขึ้นทั้งหมด และยังพบว่าผู้เช่าซื้อทั้งหมดไม่ใช่เจ้าหน้าที่ราชการ นอกจากนี้พบเจ้าหน้าที่ ที่คอยรับสายโทรศัพท์จากธนาคาร เพื่อรับรองสถานะของผู้เช่าซื้อว่าเป็นพนักงานราชการจริง น่าเชื่อว่ามีส่วนรู้เห็นในขบวนการนี้อีกด้วย นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้เช่าซื้อบางรายหลังจากได้รับรถไปแล้ว ไม่ยอมชำระค่างวดรถ ทำการเปลี่ยนป้ายทะเบียน หลบหลีกไฟแนนซ์ หรือบางรายก็ได้ขายรถที่เช่าซื้อไปแล้ว จนสร้างความเสียหายให้กับทางธนาคารเป็นอย่างมาก

พ.ต.ต.อาธิรัตน์ กล่าวต่อว่าจากการตรวจสอบรายชื่อกลุ่มผู้เช่าซื้อ ในช่วงระยะเวลา 5 เดือน พบความผิดปกติว่า ผู้เช่าซื้อทำงานที่เดียวกัน สามารถออกรถได้ถึง 34 คัน บางรายเปิดบัญชีธนาคารมาไม่ถึงเดือน แต่มีรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด 37 คน รวม 67 หมายจับ

จากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นผู้เช่าซื้อ บางส่วนให้การยอมรับว่า น.ส.ทิพย์นิดา เป็นผู้ดำเนินการทางเอกสารให้ทั้งหมด อีกทั้งบางรายยังยอมรับ ว่าเอกสารที่ น.ส.ทิพย์นิดา ทำขึ้นเป็นเอกสารปลอมทั้งหมด แต่เพราะอยากได้รถจึงจำยอม ส่วนผู้เช่าซื้ออีกกลุ่มหนึ่ง ยืนกรานปฏิเสธ อ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นเอกสารปลอม รับเพียงแค่ว่ามีหน้าที่ลงลายมือชื่อตามคำบอกของ น.ส.ทิพย์นิดา เพียงเท่านั้น

ขณะที่ในส่วนของ น.ส.ทิพย์นิดา ผู้ต้องหาคนสำคัญของขบวนการ จากการสอบปากคำตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ยังคงให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

น.ส.ทิพย์นิดา หรือก้อย วงศ์ศิริขวัญ อายุ 41 ปี

















กำลังโหลดความคิดเห็น