xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอาญาสั่งประหาร อดีตตำรวจ สน.หัวหมาก ปืนโหด ยิงเสี่ยเจ้าของโรงงานดับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา หรือหมวดนัท อดีตรองสว.สอบสวน สน.หัวหมาก
ศาลอาญาสั่งประหาร อดีตตำรวจ สน.หัวหมาก ปืนโหด รัวกระสุนใส่เสี่ยเจ้าของโรงงานดับสลดคาทางด่วน! ปมขัดแย้งธุรกิจ แต่รับสารภาพ ศาลลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ชดใช้ค่าเสียหายแก่ญาติ 13 ล้านเศษ

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีฆ่าผู้อื่น คดีหมายเลขดำ อ.949/2567 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา หรือ หมวดนัท อายุ 26 ปี ชาว จ.นครปฐม อดีตรองสว.สอบสวน สน.หัวหมาก เป็นจำเลยในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน,พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ คดีนี้มีญาติผู้ตายซึ่งเป็นผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม 3 คน ซึ่งในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อมาในชั้นพิจารณาของศาลจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่า มีความขัดแย้งกับผู้ตายเรื่องหนี้สิน จากการทำธุรกิจร่วมกัน

อัยการโจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2566 เวลากลางคืน จำเลยได้ใช้อาวุธปืน ออโตเมติก ยี่ห้อกล็อค(GLOCK) ขนาด 9 มม. หมายเลขประจำปืน BPCM 975 ทะเบียน 03/6400069 ยิงนายกฤษฎิ์ ศรุวรานนท์ เสี่ยนักธุรกิจเจ้าของโรงงาน 7 นัดเข้าที่ศีรษะ และอวัยวะส่วนอื่นจนถึงแก่ความตาย แล้วหลบหนีไป ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลางได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา เลขที่ จ.4841/2566 เพื่อติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมาย กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม ร.ต.ท.ณรงค์วัส จำเลยได้ที่ห้องพักรายวันแห่งหนึ่งย่านสีกัน เขตดอนเมือง กทม.แล้วส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลางดำเนินคดี เหตุเกิดบริเวณทางด่วนฉลองรัช(ลาดพร้าว ขาออก) แขวง-เขตวังทองหลาง กทม.

จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33,91,288,289,371,376 ฯ

ในช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว จำเลยมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อฟังคำพิพากษา

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานโจทก์ ประกอบคำรับสารภาพจำเลยแล้ว พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4),371, 376 พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 ทวิ วรรคสอง

การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและฐานยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ประหารชีวิต ฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 2 ปี

จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53(2) ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน คงจำคุกตลอดชีวิต ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ คงจำคุก 1 ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3) และให้จำเลยชำระเงินแก่โจทกก์ร่วมที่ 1 จำนวน 2,750,000 บาท ชำระเงินแก่โจทก์ร่วมที่ 2จำนวน 4,600,000 บาท ชำระเงินแก่โจทก์ร่วมที่ 3 จำนวน 6,040,000 บาท รวมจำนวนทั้งสิ้น13,390,000 บาท ริบอาวุธปืนพร้อมซองกระสุนปืนของกลาง

สำหรับเหตุการณ์ ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา หรือ "หมวดนัท" ใช้อาวุธปืนยิง นายกฤษฎิ์ ศรุวรานนท์ อายุ 30 ปี นักธุรกิจหนุ่มเสียชีวิตอย่างอุกอาจบนทางพิเศษฉลองรัช กม.10 ช่วงใกล้แยกประชาธรรม แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. เมื่อคืนวันที่ 29 ธ.ค.2566 แล้วหลบหนีไปนั้น

ตำรวจทราบว่า หลังก่อเหตุในช่วงเช้า "หมวดนัท" นายตำรวจหนุ่มวัยเบญจเพสได้ขับรถผู้ตายไปกบดานอยู่ที่ห้องพักรายวัน ย่านดอนเมือง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.และ พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 นำกำลังไปจับกุมตัวไว้ได้ พร้อมของกลางอาวุธปืน Glock 19 ที่ใช้ก่อเหตุ

จากการสอบปากคำ "หมวดนัท" อ้างว่า รู้จักกับผู้ตายเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นายกฤษฎิ์ เดินทางขึ้นโรงพักหัวหมากในฐานะผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความว่าธุรกิจถูกฉ้อโกง ระหว่างทำคดีให้กันในฐานะพนักงานสอบสวน นายกฤษฎิ์ ก็เอ่ยปากชักชวนให้มาทำงานพิเศษเป็นคนขับรถส่วนตัวและรักษาความปลอดภัย แลกกับค่าจ้างวันละ 1,000 บาท

เมื่อสนิทสนมกันในฐานะนายจ้างกับลูกจ้าง หมวดนัท จึงปรึกษาปัญหาส่วนตัว เรื่องมีหนี้สินในระบบ 2 ล้านบาท จากการไปกู้เงินมาลงทุนทำธุรกิจ โดยตลอดระยะเวลาที่รู้จักกับ นายกฤษฎิ์ ผู้ตายมานาน 5 เดือน นายกฤษฎิ์ ยังให้ความหวังจะช่วยเคลียร์หนี้และยังรับปากจะช่วยวิ่งเต้นเรื่องโยกย้ายตำแหน่งให้ พอไม่สมดังใจจึงเกิดเรื่องสลดขึ้น

ส่วนประวัติส่วนตัวของ นายกฤษฎิ์ ศรุวรานนต์ นักธุรกิจหนุ่มที่เสียชีวิต นั้นไม่พบว่าพัวพันกับการทำธุรกิจสีเทา แต่มีข้อมูลว่า ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการเป็นนายหน้าซื้อขาย ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ เปิดบริษัทจัดหานักสืบ เป็นที่ปรึกษากฎหมาย และจัดหาทนายความชำนาญเฉพาะทางให้ลูกค้า
กำลังโหลดความคิดเห็น