MGR Online - รมว.ยุติธรรม เผย ทางการไทย-อินโดฯ หารือขยายผลเครือข่าย “แป้ง นาโหนด” ขอร่วมมือล่าตัว “เฟรดดี้” พ่อค้ายาเสพติดรายสำคัญ พบฟอกเงินในไทย
วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีร่วมประชุมทางการอินโดนีเซีย เพื่อขยายผลเครือข่ายยาเสพติดของ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ ”แป้ง นาโหนด“ ว่า ขณะนี้ทางตำรวจและ ป.ป.ส.อินโดนีเซีย ยังไม่ได้เดินทางกลับประเทศ เพราะต้องประชุมติดตามความคืบหน้ากับ ป.ป.ส. ไทย โดยส่วนใหญ่จะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารองค์กรค้ายาเสพติด และบุคคลสำคัญที่ทางการต้องการตัวตามหมายจับของแต่ละประเทศ ซึ่งทางตำรวจอินโดนีเซียก็รู้สึกพอใจที่ได้แลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงบางกรณีที่มีการร่วมกันสืบสวนสอบสวนขยายผลในการทำงานต่อไป
เมื่อถามว่าเครือข่าย “แป้ง นาโหนด” เป็นเครือข่ายใหญ่มีบุคคลหลายสัญชาติร่วมขบวนการหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อินโดนีเซียมีเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญแต่ยังไม่ขอเปิดเผย ซึ่งในประเทศอินโดนีเซียจะรู้จักกันดี โดยยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่หลบหนีหรือพักพิง แต่ผู้ต้องหารายนี้มีร่องรอยในการฟอกทรัพย์สินอยู่ในประเทศไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะมีการซื้อบ้านจำนวนหลายหลัง แต่รายละเอียดอื่นๆ ยังไม่ขอเปิดเผยอยู่ระหว่างการปฏิบัติการ และไม่ใช่เครือข่ายนายเชาวลิต
“ส่วนเครือข่ายของนายเชาวลิตนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทยอยออกหมายจับไปหลายคนแล้ว เป็นกลุ่มคนไทยทั้งหมด และมีบางส่วนเป็นคนชายขอบทางภาคเหนือที่เกี่ยวพันอยู่ อย่างไรก็ตาม ทั้งเครือข่ายนายเชาวลิตมีความเกี่ยวพันกับเครือข่ายอินโดนีเซียหรือไม่ อยู่ระหว่างสืบสวนและขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลที่เชื่อมโยงกัน“
ส่วนกรณีการจับกุมนายเชาวลิต เป็นสัญญาแลกเปลี่ยนตามจับกุม “เฟรดดี้ ปราตามา” พ่อค้ายาเสพติดคนสำคัญหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี เผยว่า เครือข่ายค้ายาเสพติดในอินโดนีเซีย ทางการไทยก็ได้นำส่งคืนประเทศอินโดนีเซียไปหลายคนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่ทางการอินโดนีเซียต้องการเป็นอย่างสูง เรายินดีให้ความร่วมมือแลกเปลี่ยนข่าวสาร ซึ่งต้องเรียนว่าส่วนใหญ่คนร้ายจะหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ยืนยันว่าเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ เพราะอินโดนีเซียต้องการตัวเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังมีบุคคลใกล้ชิดในเครือข่ายนายเฟรดดี้ หลบหนีอยู่ในไทยอยู่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ขณะนี้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างทั้งสองประเทศ จึงไม่รู้ว่าการมีข่าวออกไปเช่นนี้จะทำให้การจับกุมตัวเป็นไปด้วยความยากลำบากได้หรือไม่ และขอให้รอเจ้าหน้าที่ทำงานก่อน โดยมี สำนักงาน ป.ป.ส. , บช.ปส. , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการร่วมกัน