xs
xsm
sm
md
lg

“ทวี” ขอบคุณทางการอินโดฯ ส่งตัว “เสี่ยแป้ง” กลับไทย คุมขังเดี่ยวเรือนจำกลางบางขวาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - รมว.ยธ. หารือทางการอินโดฯ พร้อมขอบคุณนำตัว “แป้ง นาโหนด” มารับโทษในไทย ใช้เรือนจำบางขวางคุมขังเดี่ยว ไม่เจอนักโทษอื่นเกรงมีปัญหา

วันนี้ (5 มิ.ย.) เวลา 09.30 น. ณ ห้องรับรอง ชั้น 3 อาคารกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมผู้บริหาร ยธ. ต้อนรับ พ.ต.อ.ออดี้ ซนนี ลาตูเฮรู (AUDIE SONNY LATUHERU) หัวหน้าแผนกอาชญากรรมระหว่างประเทศ ตำรวจสากลอินโดนีเซีย (INP Police Grand Commissioner, Head of the International Crimes Section) และคณะ ผู้แทนทางการอินโดนีเซีย จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการ หลังนำตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “แป้ง นาโหนด” ขึ้นเครื่องบินมาส่งยังประเทศไทย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.ทวี ให้สัมภาษณ์หลังการพูดคุยว่า ทางการอินโดนีเซีย ได้นำตัวนายเชาวลิต มาส่งยังประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยวันนี้ตำรวจควบคุมตัวมาที่เรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี เพราะเป็นผู้ต้องหาเด็ดขาดในคดีปล้นทรัพย์ฯ ซึ่งศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุกแล้ว จากนี้จะเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายเพราะนายเชาวลิตถือเป็นผู้กระทำผิดแล้วในคดีใหม่ คือ หลบหนีสถานที่คุมขังจะพิจารณาโทษเพิ่มเติม มีตำรวจดำเนินการสอบสวน แต่หาก สภ.ท้องที่ใดนายเชาวลิตเคยกระทำผิด ให้มาสอบสวนและอายัดตัวที่กรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม นายเชาวลิตก็ถือว่ามีสิทธิ์เหมือนผู้ต้องขังอื่น สามารถให้ญาติและทนายเข้าเยี่ยมได้ ก็ดูแลเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป

เมื่อถามถึงเครือข่ายยาเสพติดที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือนายเชาวลิต พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่มีข้อมูลในเรื่องนี้แต่ต้องขอประชุมร่วมกันก่อน แต่ข้อมูลทางการอินโดนีเซียยืนยันว่าจะไม่ให้ประเทศเขาเป็นพื้นที่ในการหลบหนีคดีอาชญากรรม โดยเฉพาะคดียาเสพติด และหากมีคนอินโดฯ มาหลบหนีในประเทศไทย เราก็ต้องจับกุม ซึ่งปัจจุบันปัญหายาเสพติดไม่ใช่แค่วาระของชาติ แต่เป็นวาระของนานาชาติ 

ส่วนแหวนที่นายเชาวลิตอ้างว่าหายระหว่างถูกจับที่บาหลี พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ทางตำรวจอินโดนีเซียมีหลักฐานมาโชว์ เช่น มีกล้องบันทึกในการถ่ายภาพการจับกุมก็ยืนยันว่าไม่มีของหาย ส่วนการเจรจาร้องขออะไรเป็นพิเศษจากนายเชาวลิต ตอนนี้ยังไม่ได้สอบสวนอย่างเป็นทางการ แต่กรณีเคยอัดคลิปขอความเป็นธรรมนั้น ใครจะพูดอะไรก็ได้แต่จะเชื่อหรือไม่เชื่อต้องมีหลักฐาน สิ่งที่นายเชาวลิตพูดเราก็ต้องรับฟัง หากมีพยานหลักฐานรองรับก็ต้องเชื่อเขา แต่ถ้าไม่มีเราก็แค่รับฟัง

เมื่อถามว่าได้มีการเตรียมมาตรการรองรับอย่างไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์มีประชุมเตรียมแผนรองรับไว้แล้ว โดยเรือนจำกลางบางขวางมีมาตรการไว้แล้วเพราะนายเชาวลิต เคยหลบหนีก็เป็นส่วนที่ต้องไปสอบสวนว่าหลบหนีได้ยังไง ส่วนเรื่องการฆ่าตัดตอนก็ต้องมีการดูแล เรือนจำต้องเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุด ทั้งนี้ การย้ายมาเรือนจำกลางบางขวางนั้น ป้องกันไม่ให้เกิดการทำผิดซ้ำสอง วันนี้เรือนจำนครศรีธรรมราชยังสร้างไม่เสร็จ จึงอาจจะต้องไปอยู่กับคนอื่น ดังนั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจต้องเอามาอยู่ที่กรุงเทพฯ ก่อน

เมื่อถามว่า นายเชาวลิต เองค่อนข้างที่จะมีสายสัมพันธ์หลายด้านจะดำเนินการอย่างไรเพื่อไม่ให้ซ้ำรอย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อาจจะเป็นข้ออ้างของนายเชาวลิต แต่ในทางปฏิบัติจะมีใครช่วยเหลือหรือไม่ โดยในเรือนจำกลางบางขวางที่ห้องคุมขังเดี่ยวและมีห้องความปลอดภัยสูงหลายห้อง

"ส่วนข้อสังเกตการใช้งบประมาณรับตัวนายเชาวลิตครั้งนี้ ทางอินโดนีเซียเป็นผู้ดำเนินการ เพราะเราก็เคยส่งตัวผู้ร้ายให้กับเขาเช่นกัน ส่วนภาพบนเครื่องบนอาจมองว่าหรูหรา มันเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ผู้กระทำความผิดต้องได้รับการลงโทษ ดังนั้น อินโดนีเซียจะไม่ให้มีการปะปนกับบุคคลอื่น แม้แต่ตำรวจไทยก็ยังไม่ให้ขึ้นเครื่อง ก็ถือว่าเขาได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว"

พ.ต.อ.ทวี กล่าวเสริมว่า ส่วนเรื่องยาเสพติดระหว่างประเทศขอให้มีการสอบสวนก่อนเพราะยังจับคนร้ายไม่ได้ ซึ่งวันนี้ประเทศไทยไม่ใช่แหล่งผลิตยาเสพติด แต่เป็นทางผ่านของยาเสพติด ดังนั้น นักค้ายาเสพติดส่วนใหญ่ก็จะไปอยู่ตามชายแดน เพื่อให้หลุดรอดการจับกุม ส่วนจะเป็นขบวนการค้ายาข้ามชาติหรือไม่ อยู่ระหว่างการสอบสวน

ด้าน พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวเสริมว่า สำหรับ นายเชาวลิต มีความจำเป็นจะต้องขังเดี่ยวและไม่ต้องไปแดนกักโรคในช่วงระยะแรกเพราะไม่อยากให้พบปะกับผู้ต้องหาอื่น และเป็นความปลอดภัยของเขาด้วย เพราะนายเชาวลิตอาจจะมีโจทย์อยู่ด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.ออดี้ บอกว่า ในการติดตามจับกุม นายเชาวลิต ทางตำรวจอินโดนีเซียได้ใช้ทรัพยากรในการติดตามสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ และเริ่มติดตามตั้งแต่อาเจะห์ เมดาน ไปจนถึงบาหลี ซึ่งทางอินโดนีเซียมีความยินดีอย่างยิ่งในการช่วยเหลือทางการไทย เนื่องจากมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสำนักตำรวจแห่งชาติของไทยและให้ความร่วมมือกันมาโดยตลอด

ส่วนทางตำรวจอินโดนีเซียทราบได้อย่างไรว่านายเชาวลิตได้หลบหนีเข้าประเทศอินโดนีเซียนั้น หลังจากพบข้อมูลว่านายเชาวลิตเดินทางเข้าประเทศอินโดนีเซียผ่านทางอาเจะห์ ก็ได้เริ่มต้นกระบวนการสอบสวน โดยตามจากผู้ที่ช่วยพาเข้าประเทศ และผู้ที่ช่วยปลอมบัตรประชาชน ซึ่งขณะนี้จับกุมผู้ช่วยเหลือได้เรียบร้อยแล้ว ก่อนแจ้งข้อมูลให้กับตำรวจติดตามจับนายเชาวลิตจนสำเร็จ




กำลังโหลดความคิดเห็น