xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : 'ทักษิณ' ฟื้น 'ไทยรักไทย' ล็อก 'สุวัจน์’ สร้างอาณาจักร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม 2567 ตอน 'ทักษิณ' ฟื้น 'ไทยรักไทย' ล็อก 'สุวัจน์’ สร้างอาณาจักร



ภาพการเดินทางไปจังหวัดนครราชสีมาของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี แม้โดยความตั้งใจแรกจะเป็นการไปทำหน้าที่ประธานฌาปนกิจศพนายวิชัย ช่างเหล็ก หรือ ลุงป็อก อดีตคนขับรถส่วนตัว แต่ในอีกด้านหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ คือ จังหวะก้าวทางการเมืองที่เกิดขึ้นที่นครราชสีมา ผ่านการพูดถึง 'สุวัจน์ ลิปตพัลลภ' ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา โดยตรง

"ดีใจที่มาพบเพื่อนๆ คนเก่าคนแก่ นายสุวัจน์ รู้จักกันมาตั้งแต่พรรคปวงชนชาวไทย นายสุวัจน์เป็นคนซื่อและรักพลเอกชาติชายมาก รู้สึกว่าพรรคชาติพัฒนา เหมือนมรดก ที่ต้องดูแลต่อยังอยู่ที่พรรคชาติพัฒนา เดี๋ยวนายสุวัจน์ จะมาเป็นกำลังสำคัญของพรรคเพื่อไทย" ท่าทีจากทักษิณที่มีต่อสุวัจน์

ถ้าใครติดตามการเมืองไทยตลอด 20 ปีมานี้ ย่อมทราบดีว่า 'สุวัจน์' ไม่ใช่คนอื่นคนไกลสำหรับทักษิณเลย เพราะครั้งหนึ่งก็เคยยุบรวมพรรคชาติพัฒนาเข้ากับพรรคไทยรักไทยในสมัยรัฐบาลทักษิณชุดที่หนึ่งภายหลังชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2544 ซึ่งเป็นการควบรวมที่เกิดไล่เลี่ยกันกับพรรคความหวังใหม่ขณะนั้น

การควบรวมดังกล่าวทำให้พรรคไทยรักไทยภายใต้การนำของ 'ทักษิณ' มีขนาดใหญ่โต สร้างปรากฏการณ์ในทางการเมืองอย่างที่ไม่เคยมีพรรคการเมืองใดทำได้มาก่อน โครงสร้างพรรคไทยรักไทยถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ เพื่อดูแลส.ส.ตามภูมิภาค ซึ่งในกลุ่มของสุวัจน์ก็จะมีชื่อเรียกว่า 'กลุ่มลำตะคอง' แน่นอนว่าเน้นดูแลส.ส.ในจังหวัดนครราชสีมาเป็นหลัก ซึ่งทุกกลุ่มจะขึ้นตรงกับ 'บ้านจันทร์ส่องหล้า' เป็นสำคัญ

แต่เมื่อเกิดการรัฐประหาร 2549 ตามมาด้วยการยุบพรรคไทยรักไทย ทำให้หัวหน้ามุ้งของพรรคไทยรักไทยต่างแยกย้ายไปตั้งพรรคการเมืองเช่นกัน ก่อนจะลงเอยอีกครั้งกับชื่อ 'พรรคชาติพัฒนา' อันเป็นชื่อเดิมของพรรค เพื่อรักษาดีเอ็นเอของพลเอกชาติชาย เอาไว้

สำหรับการหยอดให้ 'สุวัจน์' เข้ามาทำงานกับพรรคเพื่อไทยนั้น แน่นอนว่าคนระดับ 'ทักษิณ' แล้วคงไม่ได้ล้อเล่น เพราะมองสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยในเวลานี้เองก็ตกที่นั่งลำบากพอสมควร

สถานะของพรรคเพื่อไทยแม้ว่าจะอยู่ในฐานะพรรคการเมืองใหญ่ แต่มองเส้นทางจากนี้ไปแล้วยังเป็นเรื่องยากพอสมควรที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยใหญ่มากขึ้นไปกว่านี้อีก ถึงขนาดที่มีส.ส.แตะหลักเกิน 200 คนเหมือนในอดีต เนื่องจากมีพรรคก้าวไกลเป็นตัวอุปสรรคสำคัญ

ดังนั้น การจะทำให้พรรคเพื่อไทยใหญ่ขึ้นได้ ในสายตาของทักษิณจึงเลือกใช้วิธีการประหนึ่งการควบรวมบริษัท เพื่อให้องค์กรใหญ่ขึ้นและแบ่งโครงสร้างการบริหารใหม่ ซึ่งทักษิณเคยทำมาแล้วสมัยพรรคไทยรักไทย และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จนทำให้พรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ในปี 2548 แม้จะแลกมาด้วยความไม่ลงรอยกันในพรรคบางส่วนก็ตาม

ตอนนี้พรรคเพื่อไทยมาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ โดยเฉพาะอนาคตที่ไม่แน่นอนของ 'เศรษฐา ทวีสิน' รวมไปถึงการยังไม่พร้อมจะขึ้นมานั่งเก้าอี้นายกฯของ 'แพทองธาร ชินวัตร' การได้นักการเมืองมากบารมีอย่างสุวัจน์มาช่วยทำงานกับพรรคเพื่อไทยอีกคนก็คงจะเป็นประโยชน์กับพรรคและลูกสาวของทักษิณ

เท่ากับว่าการเดินหมากของทักษิณในครั้งนี้จึงเป็นการปูทางเพื่อสร้างอาณาจักรให้กับพรรคเพื่อไทยให้ไปสู่จุดเดียวกับที่พรรคไทยรักไทยเคยยืนอยู่อีกครั้ง อีกทั้งจะเป็นการตัดโอกาสให้กับพรรคก้าวไกลสร้างพันธมิตรทางการเมืองไปในตัวด้วย

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น