“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม 2567 ตอน จับ “เศรษฐา” ขึ้นเขียง 3 นายกฯ ของทักษิณ จบที่ศาล รธน.มาแล้ว
พิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชิงตัดไฟตั้งแต่ต้นลม หลังถูกดดันให้เสียสละเพื่อเซฟชีวิต เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เอาไว้ แต่ไร้ประโยชน์
เพราะสุดท้ายแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญยังมีมติรับคำร้องท่วมท้วน 6 ต่อ 3 ที่จะวินิจฉัยคุณสมบัติของ เศรษฐา กรณีแต่งตั้ง พิชิต เป็นรัฐมนตรีอยู่
ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ยุติการวินิจฉัยเหมือนกับกรณีของ นิพนธ์ บุญญามณี ชิงลาออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย จนศาลรัฐธรรมนูญจำหน่ายคดีออก
เพราะกรณี เศรษฐา ต่างกันตรงที่ เศรษฐา คือ ผู้ถูกร้องที่ 1 และ พิชิต เป็นผู้ถูกร้องที่ 2 แม้ พิชิต จะชิงไขก๊อก แต่เป็นมันเป็นการยุติวินิจฉัยเฉพาะคุณสมบัติของ พิชิต แต่ประเด็น เศรษฐา แต่งตั้งคนที่รู้ว่า อาจจะขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี ยังอยู่
แต่ พิชิต จะพลีชีพสูญเปล่าหรือไม่ ยังด่วนสรุปไม่ได้ เพราะยังมีประเด็นต่อสู้ว่า ก่อนแต่งตั้ง เศรษฐา พยายามตรวจสอบอย่างเข้มข้น โดยปรึกษาคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และหลังจากรู้ว่า เป็นคดีความพยายามที่จะแก้ไข โดยการให้ พิชิต ลาออกจากตำแหน่ง
พยายามต่อสู้ให้เห็นว่า เป็นการบกพร่องโดยสุจริต บริสุทธิ์ใจ แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เป็นอีกเรื่อง
ที่แน่ๆ 15 วันนับจากนี้ เป็นชั่วโมงลุ้นระทึกของ เศรษฐา เพราะไม่รู้ว่า กลุ่มอำนาจเก่า แค่ต้องการสับศอกสั่งสอน หรือจะล่อกันแรงถึงขั้นเตะกระเด็นออกจากเก้าอี้
ต้องบอกว่า งานนี้มีเสียวสันหลัง เพราะดูจากมติศาลรัฐธรรมนูญ ที่รับคำร้อง 6-3 และไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ 5-4 ภาษาชาวบ้านเรียกเส้นยาแดงผ่าแปด ฉิวเฉียด เหมือนถูกยิงเฉี่ยวกบาล
มติดังกล่าวถ้าจะมองในเชิงนัยทางการเมือง ถือว่า กลุ่มอำนาจเก่ายังมีพลัง และมีศักยภาพพอที่จะโค่น เศรษฐา ออกจากเก้าอี้ได้ อยู่ที่ว่า รอบนี้แค่ต้องการสะกิดแรงๆ หรือเอาจริงแค่นั้น
อย่างไรก็ดี ถอดรหัส เศรษฐา ไม่ต้องถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้คดีผู้นำในศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนหลายคน ไม่เว้นแม้แต่ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ยังต้องนั่งอยู่บ้านเฉยๆ ถึง 38 วัน ถือว่า ยังมีสัญญาณที่ดีบ้าง
เพราะถ้าอีกฝ่ายเล่นแรงถึงขั้นพลิกคว่ำคะมำหงาย เศรษฐา อาจจะต้องนั่งเปื่อยที่บ้าน อดเดินสายต่างประเทศ หมดสิทธิ์ไปโกยเรตติ้งในต่างจังหวัด ไปหลายวันแล้ว แต่นี่ยังให้โอกาสทำงานต่อ แม้มติจะฉิวเฉียดก็ตาม
น้ำหนักไปในทางกระตุกแรงๆ เศรษฐา ให้กระทบชิ่งไปถึงผู้มีอำนาจตัวจริงในพรรคเพื่อไทยอย่าง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มากกว่า
และมันยังเป็นการสะท้อนว่า ถ้าวันนี้ ทักษิณ กุมอำนาจประเทศได้หมดแล้วเหมือนที่เข้าใจกัน ศาลรัฐธรรมนูญอาจไม่รับคำร้อง เศรษฐา แต่ยุติเรื่องตั้งแต่ พิชิต ลาออกจาก รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เผลอๆ พิชิต ไม่ต้องลาออกด้วยซ้ำ เพราะ พิชิต คือ สายตรงนายใหญ่ ที่สู้ถวายหัวเพื่อตระกูลชินวัตรแบบเปลืองเนื้อเปลืองตัวมากที่สุด ถ้า ทักษิณ จะเอาให้ได้ และมั่นใจในเพาเวอร์ตัวเองในนาทีนี้ ก็ไปวัดกันในศาลรัฐธรรมนูญไปเลย เพื่อโชว์ศักยภาพให้เห็น
แต่การที่ พิชิต ลาออกก่อน และการที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้ทั้งที่ พิชิต ลาออกไปแล้ว มันแสดงให้เห็นว่า นี่คือกลไกที่ ทักษิณ ยังไม่สามารถเข้าไปกระชับอำนาจได้
และวันนี้ ทักษิณ ยังไม่ได้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ เหมือนที่เข้าใจกัน อย่าลืมว่า คนอย่าง ทักษิณ เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย และกล้าแลก ถ้าจะเอาอะไรต้องเอาให้ได้ ต่อให้เรื่องนั้นจะเสี่ยงก็ตาม
แต่วันนี้ต้องเสีย พิชิต และ เศรษฐา ต้องถูกลากไปขึ้นเขียงครั้งแรก ซึ่งมันบ่งชี้ได้ชัดที่สุดว่า ยังไมได้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จเหมือนเมื่อก่อน
ในขณะเดียวกัน ยังแสดงให้เห็นว่า กลุ่มอำนาจเก่า กลุ่มอนุรักษ์นิยม ยังไม่ได้ไว้วางใจ ทักษิณ ให้เดินเกมอย่างเต็มแรง ปล่อยให้เข้าไปกระชับอำนาจ หรือแทรกแซงกลไกต่างๆ ได้ตามอำเภอใจ แต่ยังคอยประกบอยู่ตลอดเวลา
การกระทำที่ย่ามใจ การเดินสายเหนือใต้ออกตก การทำตัวประหนึ่งอภิมหานายกฯ มันอยู่ในสายตาของกลุ่มอำนาจเก่าเสมอ
ซึ่งครั้งนี้มันสะท้อนให้เห็นว่า สิ่งที่ ทักษิณ ทำ แม้จะมีแบ็กดี แต่ไมได้เป็นแบ็กที่จะตามใจเสมอไป เมื่อไหร่ที่ดูเหิมเกริม หรือมากไป จนขัดหูขัดตา พร้อมจะกระแทกแรงๆ ใส่
ครั้งนี้ก็มีการมองกันว่า กลุ่มอำนาจเก่าต้องการกระทุ้งแรงๆ ใส่ ทักษิณ ไม่ให้หลงระเริง หรือเดินข้ามหัวไปมา
กลุ่มอำนาจเก่าต้องการแสดงให้เห็นว่า ทักษิณ ไม่ใช่ตัวละครที่สำคัญที่สุด ที่ต้องตามใจให้ทำอะไรก็ได้ทุกอย่าง ในขณะเดียวกัน ก็พร้อมที่จะตอบโต้ สั่งสอน ทุกครั้งที่มีโอกาส
แน่นอน ทักษิณ เองก็มีกำลังวังชา สามารถต่อกรได้ เพียงแต่วันนี้อาวุธหนักมันยังอยู่ที่กลุ่มอำนาจเก่า
เรื่องของ เศรษฐา ไม่ถึงขั้นเอาเป็นเอาตาย แต่เป็นการสั่งสอนให้รู้สึกตัวมากที่สุด หรือพูดง่ายๆ เล่นกันแรงๆ
แต่สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ยิ่งดูสถิติผู้นำจากพรรคเพื่อไทยที่เคยขึ้นไปต่อสู้ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่สมัยเป็นพรรคพลังประชาชน ตั้งแต่ สมัคร สุนทรเวช สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และล่าสุดคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวในไส้นายใหญ่
บอกได้คำเดียวว่า จบไม่สวยสักคน!
------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android