รุมจับหลานทาสยา ขอเงินอาไปซื้อยาเสพไม่ได้ เผาบ้านวอด ญาติจวกนโยบายยาบ้า 5 เม็ด ทำเดือนร้อน

รวบหลานคลั่ง วางเพลิงบ้านอาแท้ๆ หลังไม่ให้เงินซื้อยาบ้า ว่ายน้ำหนีกลบดานบ้านร้างนาน 3 ชม.
จากกรณี เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 27 พ.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปากเกร็ดได้รับแจ้งเหตุ ชายคุ้มคลั่งยาวางเพลิงไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ม.5 ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วยเรือดับเพลิงจากเทศบาลปากเกร็ด 2 ลำ ฉีดน้ำระงับเพลิงที่กำลังรุกไหม้ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ดกว่า 10 นาย ตรวจสอบ

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 พ.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ปากเกร็ด นำกำลังกว่า 10 นาย พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนันผู้ใหญ่บ้าน ปิดล้อมพื้นที่นานกว่า 3 ชม. พร้อมชาวบ้านชุมชนตำบลเกาะเกร็ด ม.5 ให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่แจ้งเบาะแสอำนวยความสะดวกทั้งเรือ และรถจยย. จนทราบเบาะแสว่า นายเอกพล แฟงรอด อายุ 28 ปี ได้ว่ายน้ำหนีไปกบดานอยู่บริเวณบ้านร้างในป่าอยู่ห่างจากบ้านจุดเกิดเหตุ ประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวนายเอกพลขึ้นเรือนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายจำลอง ปานแฉ่ง อายุ 70 ชาวบ้านเข้าไปจับ เล่าว่า ตนเดินเข้าไปในป่าช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินเข้าไปเห็นมีร่องรอยเท้า มีหญ้าโดนแหวกเข้าไป พอตนเข้าไปแถวๆ บริเวณบ้านร้าง เห็นมีเงาตะคลุ่มอยู่ไกลๆ พอเข้าไปเรื่อยเห็นตัวมันลุกขึ้นมาแล้วกระโดดลงไปในน้ำ มันดำน้ำอยู่สักพัก ตนจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เอาเรือมาเทียบฝั่งใกล้ๆบ้านร้าง และให้เจ้าหน้าที่ปกครองมาช่วยกันจับ พอจับได้คนก่อเหตุไม่ขัดขืนยอมให้จับและไม่พูดอะไรเลย ตนคาดว่ามันน่าจะเหนื่อยไม่มีทางหนี

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเสริมเข้ามาในที่เกิดเหตุ ใช้เวลาจับอยู่สักพัก ได้ค้นหาบริเวณพงหญ้าในป่าและบริเวณบ้านหลังหลังแรกไม่พบ หลังจากนั้นจากที่เดินตรวจสอบไป พบว่ามีรอยเท้าและโพรงหญ้าถูกแหวกอยู่ มีชาวบ้านได้เข้าไปตรวจสอบพบว่าเห็นผู้ก่อเหตุหลบอยู่ภายในบ้านหลังหลังที่สอง จึงเข้าไปช่วยกันจับและประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ใช้เรือเทียบฝั่งจึงนำตัวผู้ก่อเหตุออกมาได้ หลังจากนี้จะนำตัวผู้ก่อเหตุส่งไปที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

จากการสอบถามนางเครือ เกิดขำ อายุ 68 ปี ป้าคนก่อเหตุ เปิดเผยว่า อยากจะฝากถึงนายกเศรษฐา หรือหมอชลน่าล ว่านโยบาย 5 เม็ด ที่ได้ออกมามันทำให้ประชาชนเดือดร้อน วันนี้ตนโมโหมากอย่างจะเอามีดฟันหลานเลวคนนี้ เมื่อเช้ามาขอเงินเสพยา 200 บาท ไม่พอจะมาขอตนเพิ่มอีก 300 บาท เพื่อที่จะเอาไปเสพยา เอาอาวุธมาตีกระจก หน้าต่างตน แตกเสียหาย ขู่ฆ่า และขู่เผาบ้าน ตอนนี้ตำรวจจับได้แล้ว อยากให้ตำรวจจับตัวไปไม่ต้องปล่อย หรือประหารชีวิตไปเลยก็ดี

ส่วนทางด้านนายพนำ แฟงรอด อายุ 59 ปี เจ้าของบ้าน ได้ตรวจสอบทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายภายในบ้านปรากฏว่าไฟไหม้วอดทั้งหลัง ไม่เหลือซาก แต่มีหีบสมบัติโบราณซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นปู่ย่าอายุประมาณ 200 ปี มีทรัพย์สินย์พระเครื่องเลี่ยมทอง เครื่องประดับ กำไร พดด้วง เงินเบี้ยโบราณ ทั้งนี้ยังมีทอง 3 บาท ฉโนดที่ดิน ถูกไฟเผาหมดไม่เหลือซาก