xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : "ทักษิณ" ปัดฝุ่น สูตรรวบอำนาจ โมเดลไทยรักไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 22 พฤษภาคม 2567 ตอน "ทักษิณ" ปัดฝุ่น สูตรรวบอำนาจ โมเดลไทยรักไทย




ว่ากันตามเนื้อผ้า ตั้งแต่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาจากโรงพยาบาลตำรวจ กระทั่งโรดโชว์บ้านเกิดเชียงใหม่ ไปใต้ที่ภูเก็ต และกำลังจะไปอีสานที่นครราชสีมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนกระแสตอบรับน่าจะล้นหลามมากกว่านี้

ไม่เปรี้ยงอย่างที่คิด มีแต่สื่อที่คอยจับความเคลื่อนไหว ทักษิณ ไปที่ไหน พบใคร และกำลังจะทำอะไรเท่านั้น

วันนี้แม้จะยังมีอิทธิพลทางการเมืองอยู่ แต่ต้องยอมรับว่า เทียบกับตอนปี 2544 หรือตอนถูกรัฐประหาร ยี่ห้อทักษิณเคยป๊อบปูล่ามากกว่านี้

สัญญาณมันชัดตั้งแต่ตอนเลือกตั้งปี 2566 ขนาดตอนนั้นยังไม่มีดีลข้ามขั้วเพื่อผสมพันธุ์การเมือง ยังแพ้ให้กับพรรคก้าวไกล เสียแชมป์หลายสมัยไปให้เด็กรุ่นใหม่ที่เพิ่งจะเล่นการเมืองไม่กี่ปี

แล้วมาวันนี้ไปจับมือกับศัตรูในอดีตบริหารประเทศ นอกจากไม่ได้แต้มบวก ยังถูกตัดแต้มเพิ่ม ไม่แปลกที่แบรนด์ ทักษิณ จะไม่ได้รับความนิยมเหมือนกับวันวาน

เรื่องนี้ ทักษิณเสื่อม พรรคเพื่อไทยก็เห็น ระดับนักเลือกตั้งอาชีพจะอ่านไม่ออกเชียวหรือว่า สถานการณ์ของตัวเองเปลี่ยนไปขนาดไหน

แต่ในเมื่อโจทย์ใหญ่คือ รับภารกิจมาสกัดพรรคก้าวไกล ต้องทำให้ตัวเองชนะเลือกตั้ง มันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินเกมปั้นเรตติ้งต่อ อย่างน้อยไม่ได้เพิ่ม ก็ต้องเสียไปให้น้อยที่สุด

เรื่องยุทธศาสตร์ทางการเมืองก็เปลี่ยนไป จะใช้วาทกรรม หรือสงครามไอโอเหมือนอดีตก็ทำลำบาก เรื่องความชำนาญตามหลังพรรครุ่นลูกรุ่นหลานอย่างเครื่องจักรสีส้มอยู่หลายช่วงตัว

เกมไอโอในโซเชียล วันนี้พรรคก้าวไกลติดลมบนไปแล้ว ยากที่จะไปปั่นสู้

กระแสความนิยมธรรมชาติไม่มี ก็ต้องอาศัยกระแสความนิยมแบบจัดตั้ง ตามคิวที่มีข่าวว่า ทักษิณ เตรียมจะกลับมาใช้โมเดลพรรคไทยรักไทยยุคเฟื่องฟูเพื่อสู้กับพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งมีแค่โมเดลนี้เท่านั้นถึงจะมีโอกาสสยบพรรคสีส้ม
โมเดลที่ว่าคือ การไล่ต้อน ไล่ทุบ ไล่จีบ กลุ่มก๊วนการเมืองต่างๆ ให้มากระจุกตัวกันอยู่ที่พรรคไทยรักไทยพรรคเดียว เพื่อลดจำนวนปริมาณศัตรู ง่ายต่อการปกครองและบริหาร

ใช้ไม้นวมจีบมาอยู่ไม่ได้ ก็ใช้ไม้แข็งไล่ตีให้ยอม คล้ายๆ กับที่พรรคพลังประชารัฐยุคแรกเคยทำ ที่เปิดปฏิบัติการไล่ทุบนักเลือกตั้งอาชีพตามมุ้ง ตามจังหวัดต่างๆ ให้มาอยู่กับตัวเอง

มีทั้งหยิบยื่นผลประโยชน์ สัญญาใจ มีทั้งการใช้คดีบีบบังคับ แล้วแต่ความยากง่ายของแต่ละมุ้ง สุดท้ายมาแบบเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ต้องมา

สุดท้ายพรรคพลังประชารัฐที่เพิ่งจะตั้งไข่ไม่นานในตอนนั้น สามารถเข้าวิน กวาด สส.เป็นรองแค่พรรคเพื่อไทย แถมได้คะแนนป๊อบปูลาโหวตมาเป็นอันดับหนึ่ง

ซึ่งตัวแปรที่ช่วยในตอนนั้นคือ เรื่องกติกาด้วย!

ขณะที่พรรคเพื่อไทยตอนนี้ เริ่มคืบคลานปฏิบัติการดังกล่าวแบบแยบยล ไล่บีบ ไล่ต้อน ลูกพรรคในอดีตที่บ้านแตกสาแหรกขาดหลังการรัฐประหาร ให้กลับมาอาศัยชายคาอีกรอบ

2 จุดที่กระจัดกระจายหลักๆ คือ พรรคภูมิใจไทย ของพ่อใหญ่บุรีรัมย์ เนวิน ชิดชอบ กับ พรรคพลังประชารัฐของ ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐไม่น่ายาก วันนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค กุมสภาพ สส.ได้เกือบจะทั้งหมด สถานะตอนนี้แทบจะเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยในทางพฤตินัย เหลือแค่ในทางนิตินัยเท่านั้นที่ไม่ใช่

กลุ่มนี้เป็นกองกำลังสำคัญที่มีโอกาสสูงจะร่วมกับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะ ลุงป้อม ไม่น่าจะเล่นต่อแล้ว
แต่ที่ยากคือ ในรายของพรรคภูมิใจไทย ยี่ห้อเนวินคงไม่มีวันคิดกลับ เพราะการออกมาทำพรรคเองในช่วงหลายปีมานี้ ให้ผลคุ้มค่ามากกว่าไปเป็นลูกพรรคชาวบ้าน

กระแสพรรคไม่มี แต่ใช้วิธีจีบบ้านใหญ่ แลกเก้าอี้กระทรวงสำคัญ ไม่มีบิด ไม่มีพลิ้ว ปกครอง สส.แบบเท่าเทียมกัน จุดสำคัญที่นักการเมืองชอบไปอยู่ เพราะโอกาสเป็นรัฐบาลสูง เข้าได้ทุกขั้ว แถมได้กระทรวงเกรดเอมาดูแล

นักการเมืองบ้านใหญ่เชื่อใจมือเนวินว่า เอาตัวรอดได้

แต่นั่นไม่ได้เป็นคุณกับพรรคเพื่อไทย เพราะเก้าอี้สส.ภูมิใจไทยส่วนใหญ่คือ พื้นที่เก่าของพรรคเพื่อไทยทั้งนั้น ไม่ว่าจะอีสาน และภาคกลาง

ตอนนี้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ในสนามเลือกตั้งคือ อุปสรรคใหญ่ ฉะนั้น ไม่แปลกที่จะเห็นปฏิบัติการทุบ บีบพรรคภูมิใจไทย เริ่มตั้งแต่การนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด

ขณะที่พื้นที่ภาคใต้ จุดอ่อนของพรรคเพื่อไทย วันนี้กระแสไม่เอา ทักษิณ ยังมี และทักษิณรู้ดีว่า เปลี่ยนใจยาก ตรงนี้น่าจะปล่อยให้พรรคอื่นๆ ไปแข่งกันเอง

ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติ มียุทธศาสตร์ในครั้งหน้าว่า จะเป็นพรรคของคนภาคใต้เพื่อไว้ใช้ต่อรอง วันนี้สถานะไม่ใช่ศัตรูกันแล้ว อีกทั้งนายทุนยังคนเดียวกัน ฉะนั้น หากอดีตพรรคลุงทำสำเร็จ ย่อมไปผสมกันได้ในสภา

หลักๆ คือ เหนือ กลาง อีสาน ที่พรรคเพื่อไทยต้องปักธงให้ได้ เพื่อจะให้เหมือนพรรคไทยรักไทยในอดีต

ซึ่งมันต้องเริ่มด้วยการทุบบ้านใหญ่ที่ฐานเสียงแข็งๆ มีคะแนนจัดตั้ง ผสมด้วยกระสุนดินดำที่ถึงกว่า ถึงจะมีโอกาสเข้าวินเป็นอันดับหนึ่งในสนามเลือกตั้ง

ก่อนอื่นจึงเริ่มด้วยการดูดพรรคพวกเก่าๆ ที่กระสานซ่านเซนไปอยู่ที่อื่นมารวมกันก่อน

นักเลือกตั้งอาชีพก็ต้องรู้ว่ารอบหน้าเหนื่อยแน่ ต้องเจอทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ฉะนั้น โอกาสจะฟื้นโมเดลไทยรักไทยได้สำเร็จมีสูง

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น