ตำรวจสืบสวนนครบาล จับกุมสาวใหญ่เปิดบัญชีม้าให้มิจฉาชีพหลอกรับซื้อเหรียญกษาปณ์ ให้เหยื่อโอนค่าดำเนินการต่างๆ สูญเงินกว่า 3 แสนบาท
วันนี้ (15 พ.ค.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์ รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น.ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ กก.สส.4 บก.สส.บช.น. จับกุม น.ส.ภคมน อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับหมายจับศาลอาญาที่ 1734/2567 ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 12.30 น.
โดยพฤติการณ์แห่งคดี ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ ต้องการจะขายเหรียญกษาปณ์รัชกาลที่ 6 จึงได้ค้นหาที่รับซื้อในแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊ค พบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊คว่า “ปาหนัน รับซื้อเหรียญ” จึงได้ทักไปสอบถาม ปรากฏว่า ถูกผู้ต้องหาส่งข้อความหลอกลวงให้โอนเงินอ้างว่า เป็นค่าดำเนินการและหลอกลวงให้โอนเงินค่าอื่นๆ รวมทั้งหมด 8 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 377,000 บาท โดยได้โอนเงินจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา ต่อมาผู้เสียหายทราบภายหลังว่าถูกหลอกลวงมาแต่ต้น จึงมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสองให้ได้รับโทษตามกฎหมาย
จากนั้นพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวน จนทราบว่า ผู้ต้องหาหลบไปพักอาศัยย่านแพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ จึงไปติดตามจับกุม
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การภาคเสธโดยรับว่า ได้เปิดบัญชีให้กลับกลุ่มคนร้ายจริง โดยเป็นการสมัครผ่านแอพพลิเคชั่นที่มีการโพสในเฟสบุคเป็นภาษาจีน โดยได้รับค่าดำเนินการเป็นเงิน 300 บาท หลังจากนั้นทราบว่ามีการนำบัญชีไปใช้ในการกระทำความผิด แต่ไม่ทราบในรายละเอียดที่คนร้ายนำไปใช้ในการฉ้อโกงผู้เสียหายแต่อย่างใด จากนั้นได้นำตัวส่ง สน.พญาไท เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ได้สั่งการให้สืบสวนติดตามคนร้ายที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผ่านการหลอกลวงทุกประเภท ขอให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ มีสติ สอบถามคนรอบข้างก่อน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ส่วนผู้ที่ขายบัญชีธนาคารนั้น ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ระบุว่า เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร.