MGR Online - เลขาฯ ป.ป.ส. พร้อมปรับแผนปฏิบัติงานตามนโยบายครอบครองยาบ้า 1 เม็ด เป็นผู้เสพหรือผู้ค้าจากประวัติ ชี้มีกี่เม็ดไม่สำคัญแต่อยากให้จริงจังกับการบำบัดฟื้นฟู
วันนี้ (15 พ.ค.) ณ สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) กรุงเทพมหานคร พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึงกรณี นายกรัฐมนตรีสั่งกระทรวงสาธารณสุขแก้ไขกฎกระทรวงกำหนดปริมาณครอบครองยาบ้า 1 เม็ด ว่า ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ม.107 วรรค 2 การกำหนดปริมาณยาเสพติดว่าเป็นปริมาณเล็กน้อย เป็นอำนาจของ รมว.สาธารณสุข กำหนดหลักเกณฑ์ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้เน้นบังคับใช้ผู้เสพเป็นผู้ป่วยตามความสมัครใจบำบัดฟื้นฟู ส่วนที่เป็นข่าวคนเสพฆ่าคนในครอบครัวนั้น ไม่ใช่เขาเพิ่งเสพ แต่เสพนานแล้ว และที่ผ่านมาหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายไม่ได้จริงจังในการบำบัดฟื้นฟู มุ่งเน้นเฉพาะจับกุม ยึดทรัพย์สินมากกว่า ถึงเกิดคนคลั่งยาจำนวนมากในปัจจุบัน
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลมีการแก้ไขกฎหมายยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ก็ต้องปรับแผนปฏิบัติงานเพราะเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เพราะทุกประเทศมีปัญหายาเสพติดหมด และที่ผ่านมามองว่ายาบ้า 5 เม็ด เป็นอุปสรรคต่อการทำงานหรือไม่ ตนคิดว่าจะกี่เม็ดก็ไม่สำคัญ เพราะในอดีตคนเสพยาจะถูกมองเป็นอาชญากรถูกจับกุมดำเนินคดี และส่งศาลแต่เมื่อครอบครองไม่เกิน 15 เม็ด จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจว่าบำบัดฟื้นฟูหรือไม่
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า เมื่อมีกฎหมายบังคับใช้แล้วกรณีพบการครอบครองยาบ้า 1 เม็ด เบื้องต้นต้องดูพยานหลักฐานและประวัติผู้ครอบครองก่อน แม้การตรวจค้นอาจไม่มีของกลาง แต่หากพบเส้นทางการเงิน การใช้โทรศัพท์ จะถูกดำเนินฐานสมคบฯ และถ้าเป็นผู้เสพจริงต้องสอบถามความสมัครใจในการบำบัดฟื้นฟู ส่วนการครอบครอง 2 เม็ดขึ้นไปก็มีโทษจำคุก 15 ปี
"ส่วนเรื่องกัญชาให้กระทรวงสาธารณสุขดึงกลับเป็นยาเสพติดประเภท 5 เว้นเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น เป็นนโยบายของรัฐบาล ยืนยันว่าไม่ได้ปล่อยเป็นสุญญากาศแต่อย่างใด แต่เมื่อกลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 ก็ต้องบังคับใช้กฎหมายหากพบผู้ประกอบการกระทำผิด แต่ขณะนี้รอทางกระทรวงสาธารณสุข กำหนดรายละเอียดก่อน ส่วนเด็กเยาวชนเข้าถึงง่ายในช่วงนโยบายกัญชาเสรีนั้นเป็นเรื่องของมุมมอง"