หนุ่มวัย 38 ปี ซิ่งเก๋งกลับบ้าน รถเสียหลักชนรถข้างทาง ตกคลองบริเวณ ถนนเลียบคลองสามเสียชีวิต คู่กรณีขับรถหลบหนี
วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 เมื่อเวลา 02.30 น. ร.ต.ท.วุฒิชัย ชำกรม ร้อยเวรสอบสวนสภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุรถยนต์ชนรถที่จอดอยู่ข้างทาง ก่อนเสียหลักพลิกคว่ำตกคลอง คนในรถกระเด็นออกมาเสียชีวิต เหตุเกิดถนนเลียบคลองสาม ปากซอยคลองสาม11/19(ธรรมมนตรี) หมู่11 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบริเวณถนนเลียบคลองสาม เจ้าหน้าที่พบถังขยะถูกรถชนกระจาย และรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ร้านส้มตำไก่ย่างถูกเฉียวชนพังเสียหาย เสาไฟฟ้าถูกชนหัก 1 ต้น ใกล้กันพบรถกระบะอีซูซู สีบรอนเทา หมายเลขทะเบียน กร-362 พระนครศรีอยุธยา ที่จอดอยู่ข้างทางถูกเฉียวชนด้านซ้ายได้รับความเสียหายอีก 1 คัน ตรวจสอบริมคลองพบชิ้นส่วนรถ กระจกรถแตกกระจายทั่ว และพบแผ่นป้ายทะเบียนหลายแผ่นป้ายตกอยู่ด้วย
ส่วนภายในคลอง พบรถยนต์ยี่ห้อ นิสสัน บิ๊กเอ็มแวน สีแดง หมายเลขทะเบียน กต- 41 นครปฐม สภาพพลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้าพังเสียหายทั้งคันจมอยู่ในน้ำ พบคนขับร่างกระเด็นออกนอกตัวรถ นอนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูจึงได้ช่วยกันนำร่างขึ้นมา โดยผู้ตายสวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางกงยีนส์ ทราบชื่อต่อมา นายธิปไตย ชูสุข อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ซอยรังสิต-นครนายก 34 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ทางเจ้าหน้าที่จึงให้มูลนิธิฯนำร่างผู้เสียชีวิต ขึ้นมาจากน้ำเพื่อชันสูตรเบื้องต้น
จากการสอบถามนายสุทธิรักษ์ ผอบสวรรค์ 16 ปี และนายพลพล เกตุปราโมท อายุ 17 ปี ทั้งสองคน เล่าว่า ตนเองขี่รถเครื่องมาเซเว่น ขณะจอดอยู่เห็นรถคันนี้ ขับมาจากปากทางคลองสาม และมาด้วยความเร็ว จากนั้นก็ได้ยินเสียงรถชนอย่างแรง ตนเองกับเพื่อน จึงขับรถจักรยานยนต์ตามมา ก็เห็นรถตกลงไปในคลอง และมีคนนอนอยู่ข้างคลอง จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนรถคู่กรณีได้ขับหลบหนี
ส่วนนางสาว ภัทรตรา มีเดช อายุ 37 ปี ภรรยาผู้ตายนั่งร้องไห้ และบอกว่าสามีไปหาเพื่อนรุ่นน้อง และกำลังจะกลับบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 1 กม.แต่มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อน
ทางด้าน ร.ต.ท.วุฒิชัย ชำกรม ร้อยเวรสอบสวนสภ.คลองหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ และร่วมชันสูตรพลิกศพพร้อมกับแพทย์เวร จากนั้นจึงได้บันทึกภาพในจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานและได้เชิญผู้เห็นเหตุการณ์ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพักอีกครั้ง พร้อมทั้งประสานรถยกมายกรถเพื่อไปเก็บรักษาไว้ก่อน ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรยังนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้งและจะได้ประสานทางญาติๆ มารับศพนำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป