xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ‘กัญชา’ กลับบ้านเก่า คืนสถานะยาเสพติด ‘เพื่อไทย’ ตอกหน้า ‘ภูมิใจไทย’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2567 ตอน ‘กัญชา’ กลับบ้านเก่า คืนสถานะยาเสพติด ‘เพื่อไทย’ ตอกหน้า ‘ภูมิใจไทย’



น่าสนใจไม่น้อย กับท่าทีที่เอาจริงจังของ 'เศรษฐา ทวีสิน' นายกรัฐมนตรี ระหว่างการหารือการแก้ไขปัญหายาเสพติด ร่วมกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสมศักดิ์ เท
พสุทิน รมว.สาธารณสุข พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยการประชุมครั้งนั้นนายกฯมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข เร่งแก้ไขประกาศกระทรวง เพื่อให้กัญชากลับเป็นไปยาเสพติดประเภท 5 พร้อมกับกำหนดให้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น

ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข ก็ขานรับนโยบายของนายกฯทันที พร้อมกับคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ร่างกฎหมายได้ภายใน 1 เดือน

การส่งสัญญาณให้กัญชากลับไปมีสถานะเป็นยาเสพติดประเภท 5 ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร เพราะบทกำหนดโทษยาเสพติดในประเภท 5 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ค่อนข้างหนักพอสมควร เช่น กรณีผลิต นำเข้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50000 บาท หรือ การกระทำเพื่อการค้า ต้องโทษจำคุก 1-15 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000-1,500,000 บาท เป็นต้น

แต่นัยทางกฎหมายที่ว่ามานี้อาจยังไม่น่าสนใจเท่ากับนัยทางการเมืองที่แฝงอยู่ในคำพูดของนายกฯที่มอบไว้ให้กลางที่ประชุม เพราะเป็นการเอาผลงานที่เคยเป็นชิ้นโบว์แดงของพรรคภูมิใจไทยใส่เข้าลิ้นชักไม่ให้ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป

นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 ที่ประเทศไทยเริ่มปลดล็อคกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดตามนโยบายของพรรภูมิใจไทยในฐานะเจ้ากระทรวงหมอที่ได้หาเสียงไว้ในเวลานั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเป็นจริงที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามที่มีการขายฝันไว้พอสมควร

นโยบายปลดล็อคกัญชา แม้กระทรวงสาธารณสุขจะออกกฎหมายห้ามไม่ให้มีการใช้กัญชาเพื่อการสันทนาการ และ ใช้ในพื้นที่สาธารณะ แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น คือ พบการกระทำในสิ่งที่กฎหมายห้ามไว้แทบทุกประการ ไม่ว่าจะเป็น การใช้เพื่อการสันทนาการ เยาวชนสามารถเข้าถึงกัญชาได้ง่าย จนนำมาสู่การก่ออาชญากรรมที่มีสาเหตุมาจากการเสพกัญชา

ถึงจะมีการพยายามอ้างว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากภาวะสุญญากาศที่ไม่มีกฎหมายลูกออกมาควบคุม เนื่องจากยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ก็ดูจะเป็นข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผลมากนัก เพราะตามหลักแล้วเรื่องสำคัญเช่นนี้ควรให้เกิดความพร้อมในทุกด้านก่อน โดยเฉพาะข้อกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการบังคับใช้กฎหมาย แต่เมื่อฝ่ายการเมืองต้องการเร่งสร้างผลงาน สุดท้ายปัญหาก็เป็นอย่างที่เห็นตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอ

จากปัญหาที่เกิดขึ้นและการเตรียมให้กัญชากลับบ้านเก่าไปเป็นยาเสพติดตามเดิม ไม่ต่างอะไรกับการที่นายกฯลากพรรคภูมิใจไทยมาตบหน้ากลางสี่แยก เพื่อแสดงให้เห็นว่านโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่ดำเนินการมานั้นผิดพลาดอย่างสิ้นเชิง

ขึ้นชื่อว่าการเมืองไทยแล้วย่อมไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร มีแต่เพียงเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดที่พร้อมเชือดเฉือนให้อีกฝ่ายเพลี่ยงพล้ำได้ตลอดเวลา พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยก็เฉกเช่นเดียวกัน

วันนี้อาจยังรักกันดีในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องห้ำหั่นกันในสนามเลือกตั้ง รับรองได้เลยว่าพรรคเพื่อไทยในฐานะผู้เข้าปัดกวาดปัญหากัญชา ย่อมนำเรื่องนี้มาบดขยี้พรรคภูมิใจไทยใจไทยอย่างแน่นอน

ฝ่ายหนึ่งทำให้ยาเสพติดกลับเป็นไปยาเสพติด กับอีกฝ่ายที่เคยทำสิ่งเสพติดให้ถูกกฎหมาย แค่นี้ก็รู้อยู่แล้วว่า ในทางการเมืองใครจะเป็นฝ่ายได้ประโยชน์

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น