ตชด.ตรวจยึดยาบ้า 7,560,000 เม็ด บรรจุกระสอบลักลอบขนจากประเทศเพื่อนบ้านขึ้นริมฝั่งโขง จ.บึงกาฬ
วันนี้ (12 พ.ค.) ที่ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดที่ 244 อ.เมือง จ.บึงกาฬ พล.ต.ท.ยงเกียรติ มนปราณีต ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน พร้อมด้วย ผู้บังคับการภูธรจังหวัดบึงกาฬ , ปลัดจังหวัดบึงกาฬ, นายอำเภอเมืองบึงกาฬ, รองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2, ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24, ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 พร้อมชุดจับกุม และทหาร กองกำลังสุรศักดิ์ มนตรี ร่วมกันแถลงข่าว ตรวจยึดยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 7,560,000 เม็ด จากขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติลักลอบขนจากประเทศเพื่อนบ้านขึ้นริมฝั่งโขง ในพื้นที่ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองจังหวัดบึงกาฬ
โดยในการตรวจยึดยาเสพติดครั้งนี้เริ่มจากที่ ชุดปฏิบัติการข่าว กองร้อย ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าในห้วงนี้จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านโดยจะมาขึ้นฝั่งประเทศไทยในพื้นที่ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองจังหวัดบึงกาฬ จึงนำเรียนผู้บังคับบัญชาและได้จัดกำลัง ตรึงกำลังตามแนวชายแดน จนกระทั่งเมื่อ วันที่ 11 พ.ค.2567 เวลา 21.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวนได้สังเกตุเห็นเรือหางยาวจำนวนสองลำได้จอดติดเครื่องอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจค้นค้น แต่คนขับเรือทั้งสองลำไหวตัวทันจึงได้ออกเรือข้ามไปยังฝั่งประเทศลาวอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงพบกระสอบจำนวน 18 กระสอบภายในบรรจุยาบ้าตรวจนับแล้ว มียาบ้าจำนวนทั้งสิ้น 7,560,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดและนำของกลางทั้งหมดกลับมายัง กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
พล.ต.ท.ยงเกียรติ เปิดเผยว่า การตรวจยึดยาบ้าในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้องกันปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน โดยให้เพิ่มความเข้มงวดและเพิ่มมาตรการในการปราบปราม เพื่อมิให้มีการขนย้ายยาเสพติดเข้าสู่ตอนในของประเทศ โดยในช่วงที่ผ่านมา ตชด. และหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ได้ร่วมมือกันตรวจยึดยาเสพติดจากขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติลักลอบขนจากประเทศเพื่อน จำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ในโอกาสนี้ขอชื่นชมและให้กำลังใจชุดจับกุมของกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 ที่เป็นหน่วยหลักในการตรวจยึดยาบ้าในครั้งนี้ ขอให้ทุกหน่วยได้ร่วมมือกันทั้งด้านการข่าว การลาดตระเวน และการจับกุม เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศ
