ผู้เสียหายเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือเพจสายไหมต้องรอด ถูกมิจฉาชีพหลอกซื้อนาฬิกาหรู ออกอุบายให้ไรเดอร์มารับของ แต่ไม่ยอมโอนเงิน สูญเกือบ 4 แสนบาท
วันนี้ (11 พ.ค.) นายสมภพ ลวะวิบูลย์ เดินทางเข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกมิจฉาชีพหลอกซื้อนาฬิกาหรู ทำทีให้ส่งสินค้าทางไปรษณีย์ ออกอุบายให้ส่งเลขพัสดุมาให้ดูก่อนเพื่อจะทำการโอนเงิน สุดท้ายแอบให้ไรเดอร์เข้ามารับของไป โดยที่ไม่ยอมโอนเงิน ทราบภายหลังมิจฉาชีพใช้วิธีการแบบนี้หลอกเหยื่อจำนวนมาก
โดยนายสมภพ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้โพสต์ขายนาฬิกายี่ห้อหรู จนเมื่ิอเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มิจฉาชีพได้โทรศัพท์มาหา และแสดงตัวว่าสนใจอยากจะซื้อนาฬิกาหรูในราคาเกือบ 400,000 บาท โดยมิจฉาชีพได้ขอให้ตนไปใช้ขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง โดยมีจุดหมายปลายทางให้ไปส่งที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งอ้างว่าในพื้นที่นี้ถ้าใช้ขนส่งนี้จะสะดวกมากกว่า โดยตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร ต่อมามิจฉาชีพได้ให้ตนส่งหมายเลขพัสดุไปให้ พร้อมกับขอให้ตนเดินออกมาจากบริษัทขนส่งซึ่งให้เหตุผลว่า หากตนอยู่ข้างในเดี๋ยวมีพนักงานในบริษัทขนส่ง สอบถามเกี่ยวของที่ได้มีการจัดส่งซึ่งมีมูลค่ามากจะเกิดการลักทรัพย์เกิดขึ้น เพื่อตัดปัญหาดังกล่าวตนจึงออกมารอข้างนอกในรถของตัวเอง
ซึ่งตนก็นั่งรออยู่นาน แต่ก็ยังไม่พบว่ามีเงินโอนเข้ามาในบัญชี จึงได้ไปสอบถามกับพนักงานขนส่งก็ได้ข้อมูลมาว่า มีไรเดอร์มาติดต่อให้ยกเลิกการขนส่ง และอ้างว่าลูกค้าจะให้ไรเดอร์เป็นคนไปส่งเอง พนักงานจึงมอบพัสดุให้ไรเดอร์ไป ทำให้ตนแปลกใจว่าทำไมพนักงานถึงทำแบบนั้น ทั้งๆที่ใบเสร็จอยู่ที่ตน
จากนั้นจึงได้มีการไปแจ้งความไว้ที่ สน.หลักสอง ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พ.ต.ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ท่าข้าม สามารถจับมิจฉาชีพได้แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการอายัดตัวในแต่ละท้องที่ แต่ปรากฏว่านาฬิกาของตนนั้น พนักงานสอบสวนไม่ได้อายัดไว้เป็นของกลาง ซึ่งตนทราบมาว่า มิจฉาชีพได้ไปขายให้ร้านค้านาฬิกาแห่งหนึ่งไปแล้ว ซึ่งตนก็ได้สอบถามร้านค้าดังกล่าว โดยร้านค้าบอกว่า ให้เอาเงินมาจ่ายเพื่อไถ่ของคืนไป
ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะประสานไปยังตำรวจ สน.หลักสอง เพื่อให้ติดตามนาฬิกาของผู้เสียหาย รวมทั้งให้ตรวจสอบไรเดอร์และพนักงานของบริษัทขนส่งว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการหรือไม่