MGR Online - อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ แจงเหตุถังสารเคมีระเบิดกลางมาบตาพุด จ.ระยอง ได้ประสานเจ้าหน้าที่ลงช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบแล้ว ทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต
จากกรณีเหตุถังเก็บสารเคมีของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ได้เกิดการระเบิดและไฟไหม้ พบว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และ พนักงานได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา
วันนี้ (10 พ.ค.) น.ส.เอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า ต้องขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ โดยกรมคุ้มครองสิทธิฯ ได้ประสานงานกับสำนักงานยุติธรรมจังหวัดระยอง เพื่อลงพื้นที่และแจ้งสิทธิในการรับการเยียวยา ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฯ แต่เนื่องจากจังหวัดระยอง มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงต้องรอสถานการณ์คลี่คลายก่อน และเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่โดยเร็วที่สุดที่สามารถเข้าพบผู้เสียหายหรือทายาทได้
อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ กล่าวต่อว่า การช่วยเหลือเยียวยา ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฯ หากได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย จากการกระทำความผิดอาญาของผู้อื่น โดยที่ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ถือเป็นผู้เสียหายที่มีสิทธิได้รับการเยียวยา ดังนี้ กรณีเสียชีวิต มีสิทธิได้รับการเยียวยา จำนวน 110,000 บาท ได้แก่ (1) ค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย จำนวน 50,000 บาท (2) ค่าจัดการศพ 20,000 บาท (3) ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท (4) ค่าเสียหายอื่น 40,000 บาท
“ส่วนผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บ มีสิทธิได้รับการเยียวยา ได้แก่ (1) ค่ารักษาพยาบาล ไม่เกิน 40,000 บาท (2) ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพฯ ไม่เกิน 20,000 บาท (3) ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ ตามค่าแรงขั้นต่ำในพื้นที่จังหวัดที่ประกอบการงาน ไม่เกิน 1 ปี (*ค่าแรงขั้นต่ำ จ.ระยอง ปี พ.ศ. 2567 วันละ 361 บาท) และ (4) ค่าตอบแทนความเสียหายอื่นๆ ไม่เกิน 50,000 บาท”
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 กรณีขึ้นอยู่กับการสรุปความเห็นเกี่ยวกับคดีของพนักงานสอบสวนและการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายฯประจำจังหวัดระยอง อีกครั้ง