xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : จาก ‘บิ๊กตู่’ ถึง ‘พีระพันธุ์’ ‘รทสช.’ ร้าว ใกล้แตก?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม 2567 ตอน จาก ‘บิ๊กตู่’ ถึง ‘พีระพันธุ์’ ‘รทสช.’ ร้าว ใกล้แตก?



เกิดอะไรขึ้นกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ภายหลังเกิดสถานการณ์ร้อยร้าวต่อเนื่อง จนบุคลากรของพรรคทยอยลาออกต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น นายชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา โฆษกพรรค นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ จนมาถึงคนล่าสุด นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

การลาออกของ ‘สุพัฒนพงษ์-กฤษฎา’ ด้านหนึ่งมองไดว่าเป็นการถอนสมอออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติของกลุ่มทุน ซึ่งอาจสร้างความสั่นคลอนต่อพรรคในระยะยาวแต่ถึงบรรยากาศในพรรคจะรุ่มร้อนแค่ไหน

ทว่าคนระดับหัวหน้าพรรค 'พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค' ยังมองว่าภายในพรรคไม่ได้มีปัญหาอะไร ซึ่งดูจะสวนทางกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง

การถือกำเนิดของพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นการรวมตัวของนักเลือกตั้งที่กลัวสอบตกจนต้องมาวิ่งเกาะกระแสความนิยมของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วงปลายของรัฐบาล โดยหวังว่าต่อให้ไม่ได้เป็นพรรคอันดับหนึ่ง แต่หากได้ส.ส.ไม่ต่ำกว่าหลักสิบ อย่างไรเสียพรรครวมไทยสร้างชาติย่อมต้องได้มีโอกาสร่วมรัฐบาล ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามเป้าหมาย

แม้จะผิดหวังที่พลเอกประยุทธ์ ไม่ได้มีโอกาสกลับเข้าไปเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สาม แต่พรรครวมไทยสร้างชาติก็ได้เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย พร้อมกับเก้าอี้เจ้ากระทรวงสำคัญอย่าง 'กระทรวงพลังงาน'

เส้นทางของพรรครวมไทยสร้างชาติทุกอย่างดูจะเรียบร้อยดี เพราะพรรคได้ดูแลกระทรวงตามที่ต้องการที่เพิ่มแต้มทางการเมืองให้กับพรรคได้ แต่สุดท้ายก็มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ คือ การออกจากพรรคของพลเอกประยุทธ์ ก่อนที่จะได้ดำรงตำแหน่งองคมนตรีในเวลาต่อมา

การเปลี่ยนผ่านของพรรครวมไทยสร้างชาติจาก 'บิ๊กตู่' มาถึงมือ 'บิ๊กตุ๋ย' พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ว่ากันว่าการอยู่ร่วมกันของคนในพรรคเป็นแบบตัวใครตัวมัน หัวหน้าพรรคและผู้บริหาร ไม่ได้มีกิจกรรมร่วมกับลูกพรรคในพื้นที่

หากจะบอกว่าผู้บริหารพรรคเอาแต่นั่งอยู่บนหอคอยงาช้างก็คงไม่ผิดนัก เห็นได้จากท่าทีของผู้บริหารพรรคที่ไม่พยายามต่อรองและกดดันตอบโต้พรรคเพื่อไทย เพื่อให้คายหน่วยงานสำคัญของกระทรวงการคลังมาให้ ‘กฤษฎา’ ตามความเหมาะสม แต่กลับปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม ก่อนที่อดีตลูกหม้อกระทรวงการคลังตัดสินใจลาออกอย่างที่ได้เห็น

ส่วน ส.ส.ในพื้นที่ของพรรคต้องดูแลตัวเองเป็นหลัก เพราะไม่อาจพึ่งพาผู้บริหารพรรคได้เท่าใดนัก ทำให้ส.ส.จึงเลือกที่จะหายใจด้วยจมูกตัวเอง เพื่อสร้างมูลค่าในทางการเมืองแล้วค่อยหาโอกาสย้ายพรรค และคงไม่อยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติที่เลือกแต่ซากไปตลอด

เมื่อผู้บริหารพรรค นั่งอยู่บนหอคอยงาช้าง ปัญหาจึงกลายเป็นลูกโซ่ อย่างงานการเมืองของพรรคที่ควรต้องปรับตัวเพื่อสู้กับพรรคการเมืองอื่นๆ ก็ไม่มีความคืบหน้า ส่วนใหญ่เน้นแต่หลักการความเป็นอนุรักษ์นิยมเป็นหลักเท่านั้น

จึงไม่แปลกที่ 'เก็ต ชินภัสร์' ถึงบอกในวันที่ตัวเองลาออกจากพรรคว่า "พรรครวมไทยสร้างชาติไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศได้ ตราบใดที่ยังไม่เปลี่ยนระบบภายใน เเละยังทํางานเเบบเดิม หากฝ่ายอนุรักษ์ไม่ปฏิรูปตัวเอง ฝ่ายอนุรักษ์จะไม่มีพื้นที่เหลือในอนาคต"

จากวันนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ คำพูดของอดีตลูกพรรคได้บอกเอาไว้กำลังเกิดขึ้นจริงทุกขณะ เพื่อนำไปสู่ข้อพิสูจน์แล้วว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่อาจก้าวขึ้นไปเป็นสถาบันทางการเมืองได้ แต่เป็นได้แค่เพียงการนับถอยหลังสู่วันล่มสลายเท่านั้น

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น