หนุ่มใหญ่บ่นอยากตายคว้าปืน จ่อขมับยิงตัวเองดับกระสุนเฉี่ยวขาพ่อเจ็บ

ชายวัย 48 บ่นเครียดกับคนในบ้าน และอยากฆ่าตัวตายมา 2-3 วัน ใช้ปืนจ่อยิงขมับตัวเองเสียชีวิต กระสุนทะลุออก ไปโดนขาพ่อของผู้ตายบาดเจ็บ

เมื่อเวลา 19.00 น.วันที 8 พ.ค. พ.ต.ต.ธนิตศกัดิ์ สัจจะวีระชัย สว.(สอบสวน) สน.สำราญราษฎร์ รับแจ้งเหตุยิงตัวตายมีผู้บาดเจ็บ บริเวณร้านดีเจริญยิ่ง บ้านเลขที่ 58 ถนนบริพัตร แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฎร์ พ.ต.ท.ภาณุพงศ์ จินดาหลวง รอง ผกก.สส.สน.สำราญราษฎร์ และฝ่ายสืบสวน สน.สำราญราษฎร์ แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตร.และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น อยู่ติดริมถนนหน้าบ้านชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายของ ชื่อร้าน "ดี ยิ่งเจริญ" ค้าขายเกี่ยวกับพระพุทธรูปและของชำร่วย และอุปกรณ์เครื่องประดับทำจากไม้ ที่ชั้น 1 บริเวณด้านหลังบ้านใต้โต๊ะกินข้าว พบศพ นายปัญจภาต สู่พานิช อายุ 48 ปี สภาพนอนตะแคงขวาจมกองเลือด สวมเสื้อยืดสีเทา นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ยิงเข้าที่ศรีษะขมับขวาทะลุออกซ้าย มีอาวุธปืนยี่ห้อสมิธ ออโตเมติกขนาด 9 มม. มีทะเบียน ตกอยู่ใกล้กันมีผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นพ่อของผู้ตาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายพิพัฒน์ สู่พาณิช อาย 80 ปี ถูกกระสุนปืนเข้าที่ หน้าต้นขาขวา 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่ง รพ.กลาง นอกจากนี้ยังพบหัวกระสุนตกอยู่ 1 ปลอกบนเก้าอี้ข้างตัวผู้ตาย

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้บ่นว่าเครียดกับคนในบ้าน และอยากฆ่าตัวตายมา 2-3 วันที่ผ่านมา กระทั่งวันนี้ช่วง 6 โมงเย็น ผู้ตายเกิดมีปากเสียงกับพ่อ จากนั้นได้เดินขึ้นไปบนบ้านและนำอาวุธปืนเดินลงมาที่ชั้นล่าง จากนั้นนั่งขัดสมาดใช้อาวุธปืนจ่อขมับลั่นไกยิงตัวเอง จำนวน 1 นัดจนเสียชีวิต ซึ่งเป็นจังหวะที่พ่อผู้ตายยืนอยู่ใกล้กัน ส่งผลให้กระสุน กระเด็นไปถูกต้นขาของผู้เป็นพ่อจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุคาดว่าผู้ตายมีความเครียดเรื่องค้าขายและมีปัญหากับแฟนสาวคนใหม่ ประกอบกับญาติผู้ตายให้ข้อมูลว่าผู้ตายมีอาการป่วยซึมเศร้า

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจะเชิญตัวญาติผู้เสียชีวิตเพื่อไปสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชันสูตรที่นิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนมอบให้ญาติรับผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป