รวบ 'แจ๊ค บางแค' ชัก .38 ยิงดับลูกหนี้สุดโหด หลังชักดาบเงินค่ายานรก แค่ 400 บาท
วันที่ 4 พ.ค. พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9 พร้อม พ.ต.อ.ชัยพันธุ์ เพ็ชรสดศิลป์ รอง ผบก.น.9 และ พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม ร่วมกันจับกุม นายอภิสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) หรือ "แจ็ค บางแค" อายุ 30 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุน 3 นัด ปลอกกระสุน 3 ปลอก ยาบ้า 106 เม็ด ยาไอซ์ 35.5 กรัม และเครื่องชั่งดิจิตอลจำนวน 1 ตัว โดยจับกุมได้ที่บ้านพัก หมู่บ้านเพชรเกษม 2 ถนนเพชรเกษมซอย 55/2 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม.
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ชุดจับกุมได้รับแจ้งมีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันที่บริเวณบ้านเลขที่ 950 ซอยเพชรเกษม 55/2 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม.จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ร่วมกันเดินทางไปที่เกิดเหตุ ทราบว่า เจ้าของบ้าน คือ นายไพบูลย์ สิงห์เทศ ถูก นายอภิสิทธิ์ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเพื่อนบ้านอยู่ใกล้กัน ใช้อาวุธปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บ มีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค และเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ส่วนนายอภิสิทธิ์ หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ ตรวจเช็คประวัติพบว่าทั้งคู่เคยพัวพันกับคดียาเสพติดและคดีการพนัน จึงรีบออกติดตามตัว จนพบตัว นายอภิสิทธิ์ และได้เชิญตัวมาที่ สน.เพชรเกษม
จากการสอบถาม นายอภิสิทธิ์ ยอมรับว่าได้ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงนายไพบูลย์ จริง สาเหตุเกิดจากการที่นายไพบูลย์ ไม่ยอมชำระเงิน จำนวน 400 บาท ซึ่งเป็นค่ายาเสพติด พร้อมทั้งยังยอมรับว่าตนเองมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านและยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปตรวจค้นเพื่อตรวจยึดยาเสพติดประกอบด้วย ยาบ้าชนิดเม็ดสีส้มจำนวน 106 เม็ด และยาไอซ์ จำนวน 35.5 กรัมโดย นายอภิสิทธิ์ รับว่ายาบ้า และยาไอซ์ดังกล่าวเป็นของตนจริง สั่งซื้อมาจำหน่ายให้กับลูกค้า รวมทั้งนายไพบูลย์ด้วย ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นของเพื่อนนำมาฝากไว้ ซึ่งเจ้าของปืนถูกจับคดียาเสพติดไปก่อนหน้านี้แล้ว ตำรวจจึงได้ยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง
เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา นายอภิสิทธิ์ ว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุอันควร และจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) โดยมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป