xs
xsm
sm
md
lg

รวบอดีตโชเฟอร์รถบริษัทจอมหื่น ตามสะกดรอยสาวเพื่อนร่วมงาน ฉวยโอกาสลากไปย่ำยี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุมชาย วัย 45 ปี อดีตคนขับรถบริษัท แอบตามสะกดรอยตามชีวิตสาวเพื่อนร่วมงานนานหลายเดือน ก่อนฉวยโอกาสลากไปข่มขืนอย่างวิตถาร

วันนี้ (4 พ.ค.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.1 บก .สส.บช.น. พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.สส บก.น.5 พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.4 บก .สส.บช.น. ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.สส.2 บก.สส.บช.น. ปฏิบัติงาน ศอ.ปส.ตร. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบนครบาลร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายณัฐพล หรือนัท อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.1625/2567 ลงวันที่ 19 เม.ย. 67 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” จับกุมได้ที่ กลางถนนวิภาวดี-รังสิต (ขาออก-บริเวณสนามบินดอนเมือง) แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง จ.กรุงเทพฯ

พฤติการณ์กล่าวคือ มีชายจอมหื่นที่ตามสะกดรอยชีวิตของเหยื่อสาวมานานกว่าหลายเดือน ก่อนสบโอกาสลากเหยื่อสาวไปข่มขืนอย่างวิตถาร โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 66 ซึ่งหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายรายนี้เป็นเด็กสาวหน้าตาดี อายุ 22 ปี ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้เข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง คนร้ายผู้ก่อเหตุทำหน้าที่คนขับรถของบริษัท ได้ฉวยโอกาสนี้เข้ามาทำทีตีสนิทใกล้ชิด จนผู้ก่อเหตุเริ่มคลั่งไคล้ตน จนถึงขั้นเลิกขับรถแล้วขอย้ายมาอยู่แผนกเดียวกัน ตนรู้สึกว่าภัยร้ายเริ่มคลืบคลานมาหา เมื่อผู้ก่อเหตุได้มาทำงานใกล้ชิด อีกทั้งพยายามซักถามข้อมูลส่วนตัวย่างเกินงาม จนตนรู้สึกอึดอัด และยังไม่จบเพียงแค่นี้บางครั้งผู้ก่อเหตุถึงขั้นนำสิ่งของของตนที่อยู่ในออฟฟิศมาสูดดมอย่างโรคจิตเหมือนในภาพยนตร์ รวมถึงหลังเลิกงาน ผู้ก่อเหตุจะสะกดรอยติดตามตนตั้งแต่ออกจากบริษัท ป้ายรถเมล์ และแอบขึ้นรถเมล์ตามไปจนถึงที่พักส่วนตัว โดยที่ตนเองก็ไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นเช่นนี้มาเป็นเวลากว่าหลายเดือน

เหยื่อสาวยังให้การกับเจ้าหน้าที่อีกว่า ผู้ก่อเหตุรู้แม้กระทั่งว่า ตนชอบกินขนมยี่ห้ออะไรในร้านสะดวกซื้อ จนมาถึงในวันที่เกิดเหตุ ได้มีการจัดงานการกินเลี้ยงสังสรรค์ของบริษัท ซึ่งหลังเสร็จจากงานเลี้ยงตนต้องกลับมาทำงานต่อที่บริษัท ผู้ก่อเหตุจึงได้ฉวยโอกาสตามกลับมาที่บริษัท ด้วยสภาพแวดล้อมที่แทบจะไม่มีใครอยู่ในบริษัท จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ลงมือลากตนเข้าไปในห้องฟิสเนทของบริษัท แล้วลงมือกระทำชำเราเธออย่างรุนแรง เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบ จนตนฟื้นได้สติขึ้นมาแล้วพบว่า ตนกำลังผู้ก่อเหตุรายนี้ข่มขืนอยู่ จึงใช้เท้าถีบ และหนีออกมาจากสถานการณ์นั้นได้

ซึ่งหลังเกิดเหตุตนได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น และได้แจ้งเรื่องนี้ให้กับหัวหน้าในบริษัททราบทันที ซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้มาทำการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดก็พบว่า หลังเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุรายนี้ยังกลับเข้าไปทำความสะอาดและทำลายหลักฐานในห้องฟิสเนทจุดที่ลงมือก่อเหตุอีกด้วย หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็ไม่มาทำงานอีก และหนีไป

ต่อมาก็ได้มีการออกหมายจับนายณัฐพล หลังตกดป็นผู้ต้องหาคดีนี้ ทาง พล.ต.ต.ธีรเดช ส่งชุดสืบนครบาลเพื่อไล่ล่าติดตามตัว จนชุดสืบสวนได้ไปพบบุคคลต้องสงสัยที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับคนร้าย กำลังขับรถยนต์อยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต ทางชุดสืบสวนได้สะกดรอยผู้ก่อเหตุรายนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อพิสูจน์ทราบ กระทั่งต่อมาผู้ก่อเหตุเริ่มระวังตัวจึงเริ่มขับรถโดยใช้ความเร็วต่ำ แต่ชุดสืบสวนไม่กลัวว่าผู้ก่อเหตุจะรู้ตัว โดยมีการขับตามรถผู้ก่อเหตุไปเรื่อยๆ จนกระทั่งคนร้ายเริ่มออกอาการเริ่มขยับฉวัดเฉวียวและใช้ความเร็ว กระทั่งได้พยายามจะสับขาหลอกเจ้าหน้าที่หักเลี้ยวกลับรถกะทันหันและพยายามขับขี่มุดไปตามช่องแคบ แต่ท้ายสุดก็ถูกสกัดจับได้กลางถนนวิภาวดีรังสิต

ในชั้นจับกุม นายณัฐพล ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเคยเป็นพนักงานในแผนกไอทีแอนด์เซอร์วิส อยู่ที่บริษัทที่เกิดเหตุดังกล่าว ตามที่ผู้เสียหายกล่าวว่า ตนนั้นเป็นสตอกเกอร์ตามคุกคามชีวิตประจำวันผู้เสียหาย ตั้งแต่ขึ้นรถเมล์จนกระทั้งรู้พฤติกรรมของผู้เสียหายว่า ชอบลงมาซื้อข้าวจากร้านสะดวกซื้อไปกินบนห้องและคอยเฝ้าตามผู้เสียหายในที่ต่างๆ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นสตอกเกอร์ แค่เป็นห่วงความปลอดภัยของน้องเขาเท่านั้น

โดยในวันเกิดเหตุนั้นบริษัทที่ตนทำงานได้จัดเลี้ยงปีใหม่และผู้เสียหายได้ดื่มเหล้าจนมีอาการเมาไม่ได้สติ และตนจึงได้พาผู้เสียหายไปที่อ่างล้างจานเพื่อไปอาเจียน และพาผู้เสียหายมาเช็ดตัวที่ห้องฟิตเนทในระหว่างนั้นตนเห็นผู้เสียหายถอดเสื้อจนเห็นร่องอก ตนจึงเกิดอารมณ์และได้ลูบไล้ร่างกายผู้เสียหาย จนกระทั่งตนกำลังจะถอดกางเกงแต่ อวัยวะเพศของตนเกิดอาการอ่อนตัวจนไม่สามารถร่วมเพศเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผู้เสียหายรู้สึกตัวพอดี ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ ตนได้ลาออกจากบริษัทและออกมาทำงานรับจ้างด้วยตนเอง

ตลอดช่วงที่หลบหนีที่ผ่านมาตนได้ตั้งจิตขอขมาองค์เทพและผู้เสียหายเรื่อยมา จนในวันที่ถูกจับกุมตนมีลางสังหรณ์จากองค์เทพว่า วันนี้ตนจะถูกลงโทษจากคดีความที่เคยก่อไว้ และถ้าถูกจับวันนี้จะมีญาติผู้ใหญ่มาช่วยเหลือและตนจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่

ทั้งนี้ตนอยากเจอกับ สารวัตรหมวกไหมพรม (สารวัตรแจ๊ะ) เพราะติดตามใน tiktok มานานและคิดว่าสักวันตนอาจจะถูกสารวัตรแจ๊ะจับเพราะชุดสืบของสารวัตรแจ๊ะเก่ง อีกทั้งตนยังอยากคุยกับผู้การจ๋อ (พล.ต.ต.ธีรเดช) เพราะติดตามมานานและคิดว่าผู้การจ๋อซึ่งน่าจะเข้าใจตนมากที่สุด หลังจับกุมตัว ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของคนร้าย เพราะพยานหลักฐานในคดีนี้แน่หนามาก และจากการตรวจสอบพฤติกรรมของคนร้ายพบว่ามีการเปลี่ยนที่ทำงานบ่อยครั้งมาก เป็นไปได้สูงที่อาจจะเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว ซึ่งหลังจากนี้เราจะมีการขยายผลโดยละเอียด ขอเป็นกำลังใจให้กับหญิงสาวที่ต้องประสบพบเจอกับการถูก “sexual harassment” ในทุกแวดวงสังคมเช่นนี้ ต้องรู้จักสร้างภูมิคุ้มกันตัวเราเองก่อน ต้องรู้จักและหาแนวทางในการรับมือ การวางตัว และการป้องกันที่จะไม่เปิดโอกาสให้ผู้ที่คิดมิดีมิร้ายมาลงมือก่อเหตุกับเราได้ และหากผู้ใดมีเบาะแสการกระทำความผิดในลักษณะนี้ในแวดวงสังคมที่ท่านต้องประสบพบเจออยู่โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.




กำลังโหลดความคิดเห็น