xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ความเห็น “แบงก์ชาติ” ค้านแจกเงินดิจิตอล แค่เซฟตัวเองเท่านั้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2567 ตอน ความเห็น “แบงก์ชาติ” ค้านแจกเงินดิจิตอล แค่เซฟตัวเองเท่านั้น



เสียงเดียวแต่มีอิมแพ็ก ตามคิวที่มีเอกสารความเห็นของ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ให้ความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เมื่อสัปดาห์ก่อน ออกมา ทำให้หลายฝ่ายถึงกับออกอาการไม่มั่นใจว่า นโยบายแจกเงินจะได้คลอดหรือไม่

เพราะอ่านความเห็นและข้อห่วงใยของผู้ว่าฯธปท. แล้ว นโยบายนี้แทบไม่มีตรงไหนดีเลย ตั้งแต่เรื่องความจำเป็นในการดำเนินโครงการ และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ที่มองว่า ควรทำโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในขอบเขตที่ครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย อย่างเช่น กลุ่มเปราะบาง และจะช่วยให้ใช้งบประมาณลดลงด้วย

โดยผู้ว่าฯธปท. เห็นว่า กลุ่มรายได้น้อยมีสัดส่วนการใช้จ่ายเพื่อบริโภคสูงกว่ากลุ่ม รายได้อื่น และมักซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศมากกว่าสินค้านำเข้า

นอกจากนี้ ยังห่วงว่า โครงการดังกล่าว ก่อให้เกิดภาระทางการคลังจำนวนมากในระยะยาว และหากไม่สามารถรักษาเสถียรภาพภาระหนี้ภาครัฐได้ จะเพิ่มความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ เช่น เกณฑ์การประเมินของ Moody's

ขณะเดียวกัน ยังระบุด้วยว่าการดำเนินโครงการเติมเงินดิจิวอลเล็ตใช้วงเงินงบประมาณมูลค่าสูงทำให้ความสามารถในการดำเนินนโยบายการคลังอื่นของรัฐบาลลดลง และมีความเสี่ยงที่จะมีงบประมาณไม่เพียงพอรองรับในภาวะฉุกเฉิน

มิหนำซ้ำยังเสนอแนะอีกว่ารัฐบาลควรพิจารณาถึงความคุ้มค่าของการนำงบประมาณ 5 แสนล้านบาท ไปใช้ลงทุนในโครงการที่จะแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างและยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

ว่ากันตรงๆ ถือเป็นความเห็นของหน่วยงานที่ใช้ประกอบการพิจารณาของ ครม.ที่รุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่ง

และสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อภายนอก จนทำให้หวั่นไหวว่า สุดท้ายแล้วโครงการนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งจะมั่นใจอยู่หยกๆ ว่าปลายปีนี้ได้แน่

ทำเอาไขว้เขวกันไปหมด!

แต่ถ้าจับอาการรัฐบาล ดูแล้วไม่ได้รู้สึกยี่หระต่อความเห็นนี้แต่อย่างใด และดูเหมือนไม่ได้ให้ความสำคัญเหมือนครั้งก่อนๆ ที่ถูกท้วงติง

ปฏิกิริยาของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งยืนแถลงผลการประชุม ครม.เรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง โดยมีรัฐมนตรีจากทุกพรรคร่วมรัฐบาล และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอยู่เป็นแบ็กกราวด์ น่าจะเป็นคำตอบ

เศรษฐา ต้องการแสดงให้เห็นว่า เสียงส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หรือแม้แต่หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ อย่างสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ หรือแม้แต่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่มายืนอยู่ด้วย เห็นพ้องต้องกันหมด

มีเพียงแค่ ธปท.หน่วยงานเดียวที่ไม่เห็นด้วยเท่านั้น

ขณะที่ในมุมของ ผู้ว่าฯธปท. ที่แสดงข้อห่วงใย ในทางการเมืองไม่ได้มีเจตนาขัดขวางอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะรู้ว่า คงไม่มีผลแล้ว หลังจากรัฐบาลหลบความเสี่ยงทุกอย่าง และเลือกจะไม่กู้เงิน

แต่เจตนาที่แสดงความเห็นและข้อห่วงใย เพื่อต้องการเซฟตัวเองว่า ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ หากวันข้างหน้ามีปัญหาเรื่องความเสียหายด้านงบประมาณ และปัญหาทางด้านข้อกฎหมาย ผู้ว่าฯธปท. ในฐานะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ก็รอด

จะเห็นว่า ที่ผ่านมา ผู้ว่าฯธปท. พยายามเซฟตัวเองมาตลอด ตั้งแต่การประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ครั้งแรก ที่ได้แสดงความเห็นในที่ประชุม และขอให้มีการบันทึกการประชุมด้วยว่า ตัวเองพูดอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้ถูกนำไปแอบอ้างในภายหลัง

หรือแม้แต่ในวันที่คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ประชุมเพื่อให้ความเห็นชอบโครงการนี้เพื่อเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ผู้ว่าฯธปท. ก็ไม่ได้เดินทางมาร่วม แต่ให้รองผู้ว่าฯธปท. มาแทน

มันเป็นการปกป้องตัวเองในอนาคตเพื่อไม่ให้ถูกร่างแหไปด้วย เพราะมีบทเรียนในอดีตที่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่หลายคนต้องไปต่อสู้คดีในโครงการรับจำนำข้าว

ซึ่งหาก ธปท. ต้องการจะคัดค้านสุดลิ่มทิ่มประตู ชนิดไม่มีทางให้โครงการนี้เกิดได้ คงจะออกเป็นแถลงการณ์ไปแล้ว ไม่ทำเป็นเพียงแค่ความเห็นประกอบการพิจารณาของ ครม.เท่านั้น

และความเห็นประกอบการพิจารณาของ ครม.นั้น มีการขอไปยังหลายหน่วยงาน ไม่ใช่แค่ ธปท. มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร

ฉะนั้น ถึงตรงนี้ยังมั่นใจได้ว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่แท้ง และไม่ได้ลูกผีลูกคน เหมือนที่บางคนพยายามปั่นกระแส โหมโรง

คนที่ไม่เห็นด้วยย่อมไม่มีทางให้ความเห็นด้วย อย่างไรต้องค้านเต็มที่ แต่โครงการนี้จะเกิดหรือไม่เกิด อยู่ที่ผู้มีอำนาจตัวจริงไฟเขียวหรือไม่

ซึ่งการที่รัฐบาลยอมถอยไม่กู้เงิน และใช้เงินจากงบประมาณจากปกติ ก็เป็นการขจัดความเสี่ยงหมดแล้ว แถมยังลดสเปกไม่แจกทุกคนอีก

การแถลงถึงขั้นว่า ประชาชนจะได้รับเงินในไตรมาสที่ 4 ของปี ย่อมแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจเต็มประดาว่า มาแน่และเกิดแน่นอน

ขณะที่ในทางการเมือง โครงการนี้อย่างไรต้องเกิด เพราะเป็นเครดิตของพรรคเพื่อไทย ตัวละครที่กลุ่มอำนาจเก่าหวังใช้เป็นตัวสกัดการเข้าสู่อำนาจของพรรคก้าวไกลในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า

นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย หากทำไม่ได้ จะเสียรังวัดมหาศาล ประชาชนจะไม่เชื่อน้ำยาเมื่อถึงฤดูหาเสียง

อย่างไรต้องทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้ ปังหรือไม่ปังเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ก่อนอื่นพูดแล้ว ทำได้ เกิดขึ้นจริง นี่คือ การรักษาเครดิตของพรรค

มันไม่ใช่แค่ตัว เศรษฐา ที่เสียหายหากโครงการแท้งหรือเป็นหมัน แต่มันเป็นพรรคเพื่อไทยทั้งพรรค รวมถึงตัว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เจ้าของพรรคด้วย

ถึงตรงนี้ไม่มีอะไรในกอไผ่ เป็นแค่ ธปท.เซฟตัวเองเท่านั้น

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น