“อโนชา”ปธ.ศาลฎีกา เปิดโครงการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องที่พึ่งแรกของประชาชน เฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 10 เป็นทางเลือกให้ประชาชน
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (25 เม.ย.) ณ อาคารศาลฎีกา สนามหลวง นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกาเป็นประธานเปิดโครงการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องที่พึ่งแรกของประชาชน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค. 2567
โดยมีนางสุวิชา นาควัชระ ประธานศาลอุทธรณ์ ประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ อธิบดีผู้พิพากษา นายธานี สิงหนาท เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนร่วมในพิธี ได้แก่ ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุดสภาทนายความในพระบรมราชปถัมภ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสินธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย แพทยสภา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะทันตแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล สภาวิศวกร กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ. )ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย (จำกัด) และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด
นางอโนชา ประธานศาลฎีกา กล่าวว่า การจัดโครงการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องที่พึ่งแรกของประชาชน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็น 1 ใน 10 โครงการเฉลิมพระเกียรติ ฯ และยังมีอีก 10 กิจกรรมที่สำนักงานศาลยุติธรรมได้เตรียมจัดทำ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การที่ศาลยุติธรรมได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นโดยพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 1 เม.ย.- 31 ก.ค.2567 เพื่อให้ศาลยุติธรรมทั่วประเทศได้รวมพลังในการส่งเสริมให้ประชาชนและคู่กรณีร่วมใจไกล่เกลี่ยข้อพิพาท โดยสันติวิธี ลดปัญหาความขัดแย้ง ให้ข้อพิพาทยุติโดยเร็วด้วยความสมานฉันท์ และสร้างความปรองดองรวมทั้งเป็นการรวมพลังทุกภาคส่วน หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนร่วมแรงร่วมใจนำข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และยังเป็นการสนองพระปฐมบรมราชโองการ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวในหลวงรัชกาลที่ 10 ของพสกนิกรชาวไทย ที่มีความว่า "เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป"
ด้านนายอดุลย์ ขันทอง ผู้พิพากษาศาลฎีกา ประธานคณะทำงานพัฒนาระบบการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง กล่าวว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ศาลยุติธรรมได้มอบหมายให้สำนักส่งเสริมงานตุลาการจัดกิจกรรมรณรงค์การไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องที่พึ่งแรกของประชาชน เพื่อเปิดโอกาสให้คู่ความได้เจรจายุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ด้วยความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และเป็นธรรม โดยมีผู้ประนีประนอมทั้งบุคลากรในศาล บุคคลภายนอกที่มีความรู้ความสามารถและผ่านการฝึกอบรมเป็นผู้ช่วยเหลือคู่ความให้สามารถเจรจากันได้อย่างมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผล รวมทั้งเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาและยุติข้อพิพาทให้แก่คู่ความ ซึ่งเป็นนโยบายของประธานศาลฎีกาอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องรณรงค์เผยแพร่ความรู้ด้านการใกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้กับประชาชน โดยส่งเสริมและพัฒนาระบบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้อง ศาลยุติธรรมพร้อมจะยกระดับนำระบบไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องมาใช้เป็นหลัก ควบคู่กับการพิจารณาคดีของศาลและเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถยุติหรือระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องฟ้องร้องคดีต่อศาล เพื่อลดความเหลื่อมล้ำเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีและเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งยังส่งผลต่อการลดปริมาณคดีที่จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีของศาลด้วย
สำหรับสถิติการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง ในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จากที่มียื่นคำร้อง 11,296 เรื่องไกล่เกลี่ยได้สำเร็จ คิดเป็นร้อยละ 88.77 จำนวนทุนทรัพย์ 424,958,551 บาท และในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 นับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2566 - วันที่ 19 เม.ย.2567 มียื่นคำร้อง 26,326 เรื่อง ไกล่เกลี่ยสำเร็จ คิดเป็นร้อยละ 92.82 จำนวนทุนทรัพย์ 3,361,590,435 บาท
สำหรับสถิติการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง ในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จากที่มียื่นคำร้อง 11,296 เรื่องไกล่เกลี่ยได้สำเร็จ คิดเป็นร้อยละ 88.77 จำนวนทุนทรัพย์ 424,958,551 บาท และในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 นับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2566 - วันที่ 19 เม.ย.2567 มียื่นคำร้อง 26,326 เรื่อง ไกล่เกลี่ยสำเร็จ คิดเป็นร้อยละ 92.82 จำนวนทุนทรัพย์ 3,361,590,435 บาท
