“สารวัตรแจ๊ะ” สืบนครบาล ฟ้อง “ทนายรัชพล” ปูด “ตร.จับแพะ” เข้าข่ายหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน เอาไปเป็นค่าใช้จ่ายจับโจร ทนายความมั่นใจชนะคดีแน่ ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 2 ก.ย.นี้
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (22 เม.ย.) พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ หรือ สารวัตรแจ๊ะ สว.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย ทนายอาชิรญาณ์ ธนาพีระพงศ์ ได้ยื่นฟ้อง ทนายรัชพล ศิริสาคร ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 5 ล้านบาท กรณีเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ใส่ร้ายว่าสารวัตรแจ๊ะ ว่า จับแพะ ติดคุกฟรีปีกว่า
พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ หรือ สารวัตรแจ๊ะ กล่าวว่า เหตุการณ์คดีนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2563 ช่วงที่ตนลงไปทำคดีน้องชมพู่ ที่บ้านกกกอก จ.มุกดาหาร ต่อมาแม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายวัย 5 ขวบ เดินทางมาร้องว่าลูกสาวถูกคนร้ายก่อเหตุอนาจาร และศาลได้ออกหมายจับ และดำเนินการจับกุมผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวนสภ.กกตูม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งตนได้ทำไปตามหลักของการสืบสวน ไม่ได้มีการใส่ร้ายหรือกลั่นแกล้งจับกุม ตนมีหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมให้ศาลพิจารณา แม้คดีดังกล่าวศาลชั้นต้นจะยกฟ้อง ก็ยกฟ้องด้วยเหตุยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย
ต่อมาศาลอุธรณ์วินิจฉัยว่า พยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหักล้างหลักฐานของโจทก์ได้ จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 279 วรรคสอง จำคุก 2 ปี และเนื่องจากจำเลยมีประวัติความผิดเกี่ยวกับคดีอาญา เป็นเหตุให้เพิ่มโทษ 1 ใน 3 ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 92 เป็นจำคุก 2 ปี 8 เดือน
แม้ต่อมาศาลฎีกาจะพิพากษายกฟ้อง ก็ยังยกฟ้องด้วยเหตุแห่งความสงสัย ไม่ได้ยกฟ้องเพราะเห็นว่ามิได้กระทำความผิดโดยศาลวินิจฉัยพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมายังมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำความผิดหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลย
พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ หรือ สารวัตรแจ๊ะ กล่าวยืนยันว่า คดีนี้ตนทำไปตามพยานหลักฐาน และจับกุมตามหมายจับของศาล จะไปกลั่นแกล้งทำไม ถ้าคิดว่าผิดจริงก็ดำเนินคดีอาญาได้
“ทุกวันนี้ผมทำงานปกป้องประชาชน ปกป้องคนอื่น ถ้าผมปกป้องตัวเองไม่ได้ ผมจะไปปกป้องคนอื่นได้ยังไง การที่เขากล่าวหาว่าผมพาผู้ต้องหาไปอยู่เซฟเฮาส์ หรือ อุ้มผู้ต้องหา อาจเข้าข่ายกักขังหน่วงเหนี่ยว ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงทำไมทนายความไม่ดำเนินคดีกับผมฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวในคดีอาญาไปเลย การที่ทนายความโพสต์ข้อความใส่ร้ายผมตอนนี้ต้องการอะไร”
ด้าน ทนายอาชิรญาณ์ กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจาก สารวัตรแจ๊ะ และชุดสืบสวนไปลงพื้นที่ทำคดีน้องชมพู่ ที่ จ.มุกดาหาร ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ก็ไปเจอว่ามีเหตุการณ์เด็กหญิงถูกอนาจารเกิดขึ้นอีกคดีหนึ่ง จึงได้ขอหมายจับตามกฎหมาย และชุดจับกุมได้จับกุมตามขั้นตอนของศาล และคดีดังกล่าวนี้ ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน แม้ว่าศาลฎีกาจะพิพากษายกฟ้อง แต่ก็ยกประโยชน์แห่งความสงสัย ให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.227 วรรคสอง ไม่ได้ยกฟ้องเพราะเห็นว่ามิได้กระทำความผิดหรือการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ถ้าพยานหลักฐานที่ปรากฏต่อศาลยังมีข้อสงสัยอยู่ ว่าจำเลยกระทำความผิดจริงหรือไม่ ศาลก็จะยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลย
ดังนั้น ที่ศาลฎีกายกฟ้องไม่ได้ นั้นศาลไม่ได้ชี้ชัดว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิด แต่ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย และการยกฟ้องแบบบนี้ไปยื่นขอเงินชดเชยเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม ก็จะไม่ได้เงินชดเชยด้วย เพราะถือว่าแม้ศาลยกฟ้อง แต่ก็ยังมีเหตุแห่งความสงสัยว่าจำเลยกระทำผิดหรือไม่ ซึ่งการพูดแบบนี้ถือว่าเป็นการทำลายหลักกฎหมาย และทำลายตำรวจที่กำลังทำงานเพื่อประชาชนอยู่ การมาฟ้องหมิ่นประมาทวันนี้จึงมั่นใจว่าชนะคดีแน่นอน ซึ่งสารวัตรแจ๊ะจะนำเงิน 5 ล้านบาท ไปช่วยเหลือในการจับกุมคนร้ายต่อไป
ทั้งนี้ ภายหลังทนายความยื่นฟ้องแล้ว ศาลอาญาได้รับฟ้องและนัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 2 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น
วันเดียวกัน ที่ศาลเเพ่งกรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลนัดพิจารณาคดีที่ นายนริน เชื้อคมตา อายุ 52 ปี ชาวบ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร อดีตผู้ต้องสงสัยคดีน้องชมพู่ ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจเเห่งชาติในความผิดฐานละเมิดเรียกค่าเสียหายทางเเพ่ง 5 ล้านบาท
โดยในวันนี้ นายนริน เดินทางมาพร้อม นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ
นายรัชพล กล่าวว่า สำหรับคดีนี้โดยตำรวจซึ่งนำทีมโดย พันตำรวจตรี ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สารวัตรกองกำกับการที่ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (สว.กก.3 บก.สส.บช.น.) หรือ “สารวัตรแจ๊ะ” ได้จับกุมตัว นายนริน ซึ่งเคยเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีน้องชมพู่ แต่ถูกจับในคดีอนาจารเด็ก 5 ขวบ ซึ่งนายนรินให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ถูกนำรูปไปปะปนกับรูปคนอื่นแล้วให้เด็กผู้เสียหายชี้รูป ซึ่งเด็กผู้เสียหายรู้จักนายนรินคนเดียว โดยขั้นตอนมีการนำนายนรินไปเข้าเซฟเฮาส์ 4 วัน 3 คืน แล้วถูกจับกุมข้อหาอนาจารเด็ก 5 ขวบ ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี
ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เพราะการสอบสวนไม่เป็นไปตามขั้นตอนมีพิรุธ ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน แต่สุดท้ายศาลฎีกายกฟ้อง ทำให้นายนรินตกเป็นแพะ ต้องติดคุกฟรี 1 ปี 3 เดือน โดยเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา นายนริน จึงได้ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกร้องค่าเสียหายห้าล้านบาทที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้
โดยวันนี้ตนเเละผู้เสียหายจึงเดินทางมาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ตามนัดชี้สองสถานเพื่อกำหนดประเด็นข้อพิพาท ทั้งปัญหาข้อกฎหมายปัญหาข้อเท็จจริงในคดี และการกำหนดหน้าที่นำสืบพยานในข้อเท็จจริง กับพนักงานอัยการซึ่งรับหน้าที่เเก้ต่างให้จำเลย
อย่างไรก็ตาม วันนี้ทางพนักงานอัยการซึ่งรับหน้าที่เเก้ต่างได้ขอเลื่อน เนื่องจากเอกสารทางคดีอยู่ที่จังหวัดมุกดาหาร ยังไม่สามารถเตรียมเอกสารได้ทัน ศาลจึงเลื่อนนัดชี้สองสถานไปเป็นวันที่ 10 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.