พบศพชายถูกรถไฟทับร่างขาดสยอง มีบาดแผลถูกมีดแทงยับ คาดเป็นแรงงานต่างด้าว โดนเพื่อนร่วมชาติฆาตกรรมอำพราง
เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 18 เม.ย. ร.ต.ท.ธนทรัพย์ รัศมีภูผา รอง สว.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม ได้รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกรถไฟชนเสียชีวิต บริเวณ ซอยพระยามนธาตุ 9 แยก 2 แขวงและเขตบางบอน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม แพทย์เวร โรงพยาบาลศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบริเวณทางรถไฟช่วงระหว่างมุ่งหน้าการเคหะธนบุรีโครงการ 3 และเขตบางบอน พบศพชายไทยไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบสัญชาติ อายุประมาณ 30-40 ปี ในสภาพศพนอนคว่ำหน้า บริเวณช่วงบ่าฝั่งซ้ายถึงลำตัวฝั่งขวาถูกรถไฟทับฉีกขาดสะพายแล่ง ส่วนศีรษะอยู่นอกรางรถไฟ ลำตัวนอนคว่ำอยู่กลางรางรถไฟ สภาพศพชายคนดังกล่าวไว้ผมสั้น ใส่เสื้อเชิ้ตสีแดงเลือดหมู กางเกงขาสั้นสีครีม มีรองเท้าแตะสีเหลืองตกอยู่ที่เท้า 1 ข้าง ส่วนอีกข้างกระเด็นอยู่บริเวณพงหญ้า ใกล้ศพระยะไม่เกิน 1 เมตร พบมีดพับปลายแหลมตกอยู่ในพงหญ้า 1 เล่ม
เมื่อแพทย์พลิกศพตรวจสอบ พบบาดแผลถูกแทงที่บริเวณลำคอขวา 1 แผล ที่หน้าผาก 1 แผล ที่ศีรษะ 1 แผล ลำตัวด้านซ้าย 2 แผล หัวเข่าซ้าย 1 แผล และหลังมือซ้าย 2 แผล รวมทั้งสิ้นถูกแทง 8 แผล เจ้าหน้าที่จึงทำบันทึกรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน พร้อมมอบหมายให้อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู นำศพส่งนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช ชันสูตรพลิกศพ
ด้าน พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก สน.ท่าข้าม เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีเมื่อช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ทันทีที่มาถึงเกิดเหตุพบศพชายยังไม่ทราบสัญชาตินอนเสียชีวิตในลักษณะคว่ำหน้าทับรางรถไฟ ส่วนบริเวณศีรษะขาดตกออกนอกรางรถไฟใกล้กันพบอาวุธมีดพับตกอยู่ใกล้ศีรษะ มีดพับมีร่องรอยคราบเลือดติดอยู่ ส่วนบริเวณโดยรอบร่างกายของผู้เสียชีวิตมีร่องรอยบาดแผลที่ถูกอาวุธมีดทำร้ายทั่วร่างกายหลายแห่ง ไม่พบเอกสารติดตัว ขณะนี้ต้องทำการตรวจสอบว่า คนตายเป็นใคร ยังต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จึงยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดได้ว่าเป็นเพราะรถไฟชน หรือถูกฆาตกรรม
ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลจากชาวบ้านใกล้เคียงจุดเกิดเหตุว่า เส้นทางรถไฟสายนี้เป็นจุดที่แรงงานต่างด้าวใช้สัญจรเวลาไปทำงาน และกลางคืนมักจะมีคนงานต่างด้าวมานั่งจับกลุ่มคุยกัน โดยช่วงเวลากลางคืนจะไม่มีรถไฟวิ่งให้บริการแต่อย่างใด คาดเป็นการ ฆาตกรรมอำพรางกันเองของแรงงานเพื่อนบ้าน ซึ่งหลังจากนี้ จะตรวจสอบให้แน่ชัดว่าผู้ตายเป็นใคร เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป