"เสี่ยเจษ" โร่พบ ปทส. รับทราบข้อหา ครอบครองวัตถุอันตราย - พ.ร.บ.โรงงานฯ เจ้าตัวสารภาพหมุนเงินไม่ทัน จึงแบ่งขายกากแคดเมียมให้นายทุนจีน รับเตรียมนำไปขายต่อที่ลาวด้วย ยันทำธุรกิจนี้กว่า 40 ปี ไม่มีการเมืองอยู่เบื้องหลังแน่นอน
วันนี้ ( 18 เม.ย.) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส.เปิดเผยถึงกรณีที่ นายเจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย กรรมการ บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ซึ่งได้เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งที่ 2 ตั้งแต่ 08.30 น. โดยมาพร้อมกับทนายความและภรรยาเบื้องต้นนายเจษฎา ได้ขออนุญาตพนักงานสอบสวนเตรียมข้อมูลมาชี้แจงในภายหลัง
พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า จากการพูดคุยนอกรอบ นายเจษฎา เปิดเผยว่า การซื้อขายกากแคดเมียมนั้นมีการทำสัญญากับบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด ซึ่งขายให้กิโลกรัมละ 1.25 บาท โดยในสัญญาบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด เป็นผู้ซื้อที่จะรับไปกำจัด ซึ่งตอนแรกจะพยายามส่งออกไปหลอมที่ลาวโดยมีคนจีนรอรับซื้อ ซึ่งที่ลาวมีบริษัทที่สามารถแยกแคดเมียม ทองแดง และสังกะสีได้ แต่ปรากฏว่าก่อนหน้ามี นายจาง นายทุนชาวจีน ติดต่อเข้ามาซื้อกากแคดเมียม 5 พันตัน จึงขายให้กิโลกรัม 8.25 บาท ซึ่งนายจางได้ส่งรถมารับเพื่อนำไปเก็บไว้ที่โกดังใน จ.ชลบุรี ทั้งนี้ยังพบว่า นายจาง ยังพยายามขายต่อให้คนอื่นอีกที แต่ไม่ให้นายเจษฎารู้ว่าขายให้ใคร ส่วนล็อตที่จะส่งไปลาวยังไม่มีการตกลงที่แน่ชัดและประเมินราคาไม่น่าจะต่ำกว่ากิโลกรัมละ 8.25 บาทแน่นอน
พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวอีกว่า การที่บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล นำไปขายต่อถือว่าผิดวัตถุประสงค์ในสัญญาซื้อขายเพราะบริษัทมีใบอนุญาตกำจัด และสัญญาซื้อขายก็ระบุว่าซื้อมากำจัด โดยนายเจษฎาให้ดูรูปยืนยันว่ามีเครื่องมือในการกำจัด โดยซื้อมาจากประเทศอังกฤษแต่ตอนนี้เครื่องมือ อยู่ระหว่างซ่อมแซมทำให้ไม่สามารถกำจัดได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องไปดูเครื่องจักรดังกล่าว แต่เชื่อว่าวัตถุประสงที่ซื้อมาจากบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด นั้นจะซื้อมาเพื่อขายต่อมากกว่ากำจัดกันแน่ ส่วนที่บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล ต้องนำกากแร่ไปฝากโกดังอื่นๆ ที่ไปพบก่อนหน้านี้นายเจษฎา ให้การว่า ที่จัดเก็บไม่เพียงพอ จึงต้องนำไปจัดเก็บที่อื่น ทั้งนี้จะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่จำเป็นที่ต้องสอบในทางลึกอีกที
ผู้สื่อข่าวถามว่าการขออนุญาตให้ขนกากแคดเมียมจากตาก 13,800 ตันทั้งที่ปลายทางไม่มีพื้นที่จัดเก็บเพียงพอ หน่วยงานไหนต้องตรวจสอบ ระหว่างอุตสาหกรรมตากต้นทางหรืออุตสาหกรรมปลายทาง พล.ต.ต.วัชรินทร์ ตอบว่า ต้องเป็นปลายทาง โดยเมื่อแรกขนย้ายมาถึงจังหวัดสมุทรสาครแล้วก็เป็นหน้าที่ของอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครที่ต้องเข้าไปตรวจสอบโดยนายเจษฎาให้การว่า อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครเคยเข้ามาตรวจสอบแล้วหนึ่งครั้ง ส่วนการที่อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครมาตรวจแล้ว แต่จำนวนกากแร่ไม่ตรงกับที่มีการสำแดงไว้จะเข้าข่ายละเลยหรือไม่ เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ส่วนตำรวจก็สืบสวนไปด้วยและจะนำข้อมูลไปเทียบเคียงกับของกระทรวง ซึ่งหาก บก.ปทส.พบเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องก็จะส่งเรื่องให้ ปปป.โดยตอนนี้ได้ประสานกับ ปปป.เรียบร้อยแล้วหากเจอก็จะให้ดำเนินการไปควบคู่กับคดีอาญาของ บก.ปทส.นอกจากนี้ได้มีการประสานงานกับประธาน กมธ.อุตสาหกรรมในทางลับอยู่แล้ว
พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวด้วยว่า ตามที่ นายเจษฎา ยืนยันว่าการขนกากแคดเมียมไม่ได้จ่ายเงินใต้โต๊ะให้เจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนกระแสข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐระดับรองอธิบดีเกี่ยวข้องตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล ส่วนการกล่าวหาใครต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน
เมื่อถามว่าจากการตรวจสอบบริษัทต้นทางบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัดพบความผิดอะไรบ้างหรือไม่ พล.ต.ต.วัชรินทร์ เปิดเผยว่า บริษัทต้นทางต้องรับผิดชอบตามประกาศกระทรวง ปี 66 และผู้ก่อมลพิษก็ต้องรับผิดชอบหากก่อมลพิษ ส่วนการขนย้ายยังไม่พบว่าบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ มีความผิดในตอนนี้เพราะในสัญญาซื้อขายระบุชัดว่า ให้ เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด รับผิดชอบทั้งหมดทั้งเรื่องการประสานงานเจ้าหน้าที่การขนย้ายการขอ EIA ผู้ขายจะไม่รับผิดชอบโดยให้วางเงินมัดจำไว้ประมาณ 10 ล้านบาท หากมีความเสียหาย
ส่วนเรื่องการตั้งข้อสังเกตการทำ EIA ว่าบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ ฝ่าฝืน EIA หรือเปล่าเนื่องจากขุดกากแร่ขึ้นมา พล.ต.ต.วัชรินทร์ ตอบว่า ตำรวจยังไม่ได้ดูตรงนี้เพราะการกำหนด EIA เป็นเรื่องของกรมควบคุมมลพิษ
ส่วนกรณีกระทรวงการคลังถือหุ้น ในบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์แต่บริษัทไม่มีความผิดนั้นจะเกิดข้อครหาหรือเปล่า พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ มีหนังสือไปถึงอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ให้พิจารณาว่าเบาด์ แอนด์ บียอนด์ มีความผิดอะไรบ้าง หากพบความผิดก็ให้อุตสาหกรรมจังหวัดตากเป็นผู้ร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน บก.ปทส. เนื่องจากตอนนี้ เบาด์ แอนด์ บียอนด์ ยังไม่มีความผิดทางอาญาทำให้พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถดำเนินการได้
เมื่อถามว่าจะต้องเชิญ สก.ก้าวไกลมาหรือไม่พล.ต.ต.วัชรินทร์ บอกว่าแม้จะเป็นญาติจริงแต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีนี้และนายเจษฎาบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและห่างกันมานานแล้ว อย่างไรก็ตามในวันนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา นายเจษฎา ประกอบด้วย 4 คดี คือ ที่ตั้งบริษัท เจแอนด์บี 132 หมู่ 2. ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทใหญ่ จะมีความผิด ตาม พ.ร.บ.โรงงาน ที่ตั้งบริษัท เจแอนด์บี 136/2 หมู่ 2 ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร มีความผิด ข้อหา ครอบครองวัตถุอันตราย เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ไม่ได้อยู่ในใบอนุญาตเป็นปลายทางของกากแคดเมียม มีความผิด ข้อหา ร่วมกันครอบครองวัตถุอันตราย กรณีที่ได้ทำสัญญากับโกดังเลขที่ 70/2 ม.7 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ของนายหนุ่ม ในการเก็บเช่าโกดังเก็บกากแคดเมียม และความผิด ข้อหา ครอบครองวัตถุอันตราย กรณีเป็นกรรมการบริษัท ล้อโลหะไทย แมททอล จำกัด ย่านบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ที่นำกากแคดเมียมมาฝากไว้
ด้าน นายเจษฎา กล่าวว่า ตนเองทำถูกต้องทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นทางมาถึงปลายทาง และบริษัทเจแอนด์บี เป็นโรงหลอมโรงหล่อ ก็ไปประมูลกากอุตสาหกรรมมา เพื่อนำขาย และตนเองต้องการสังกะสี กับทองแดง แต่แคดเมียม เป็นองประกอบ ที่ไม่ได้อันตรายมาก ส่วนที่ต้องนำไปฝากตามจุดต่างๆ เพราะมีจำนวนมากจึงต้องไปเช่าโกดัง และตนเองเป็นพ่อค้า นอกจากเอามากำจัดแล้ว แต่เมื่อหมุนเงินไม่ทัน จึงแบ่งเอาไปขายบ้าง ก็คือการขายให้นายจาง
"ผมยอมรับผิดว่า เป็นการนำไปขายต่อโดยไม่ถูกต้องเพราะยังไม่ได้รับอนุญาตให้ขายต่อ และยอมรับว่า เตรียมนำไปขายต่อที่ประเทศลาวด้วย อยู่ระหว่างการขออนุญาตตามสัญญาบาเซล และกากอุตสหกรรมที่เจอทั้งหมดนั้น เจอครบทั้งหมดแล้ว พร้อมยืนยันว่า การทำธุรกิจของผม ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง เพราะทำธุรกิจนี้มากว่า 40 ปีแล้ว และไม่มีการเมืองใดๆ มาเกี่ยวข้อทั้งสิ้น" นายเจษฎา กล่าวและว่า กากแร่แคดเมียมไม่ได้อันตรายตามที่สื่อบางสื่อลง และมีความปลอดภัย เพราะกากแร่แคดเมียม มีผสมอยู่ในถ่านรีโมทของทุกบ้าน หรือแบตเตอรี่รถยนต์ ขออย่าไปตกใจ ลองไปเสิร์ช Google ดูได้ว่ากากแร่แคดเมียมไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด