ตำรวจสืบสวนนครบาลจับสาว วัย 27 ปี เท้าแชร์ออนไลน์ หลอกชวนเหยื่อจำนวนมาก ลงทุนออมเงินออมทอง อ้างผลตอบแทนสูง เสียหายหลายล้าน
วันนี้ (15 เม.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ชุดปฏิบัติการที่ 4 ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ลิตา อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรีผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 4 หมาย ดังนี้
1. ศาลอาญามีนบุรี ที่ 1064/2564 ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
2. หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 80/2565 ลงวันที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฉ้อโกง
3. หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 156/2565 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงและฉ้อโกงประชาชนและให้กู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์
4. หมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 305/2564 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน, ฉ้อโกง, ผู้ใดกระทำความผิดโดยการ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
สามารถจับกุมที่บริเวณลานจอดรถหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตำบลโพสะ อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 19.00 น.
โดยพฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณเดือนต้นเดือน ต.ค. 64 ขณะที่ผู้เสียหายกำลังพักผ่อนและเล่นเฟซบุ๊กอยู่ที่บ้านพัก ได้เห็น น.ส.ลิตา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก โพสต์เชิญชวนบุคคลทั่วไปที่อยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊กให้ร่วมลงทุนออมเงินออมทอง โดยใช้ชื่อทุนว่า “บ้านออมลิตา V.3 นายทุนราย 4 วัน” ถ้าหากลงทุน 100,000 บาท จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนเป็นเงินจำนวน 137,000 บาททุกวันจำนวน 4 วัน โดยแบ่งจ่ายวันละ 34,250 บาท โดยเวลารับดอกเบี้ยคืนในวันรุ่งขึ้นของอีกวัน ต่อมาผู้เสียหายสนใจจึงร่วมลงทุนกับ น.ส.ลิตา พร้อมโอนเงินจำนวน 100,000 บาท เข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี น.ส.ลิตา โดยโอนผ่านแอปธนาคาร หลังจากโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปแล้ว ผู้เสียหายได้แจ้งให้ น.ส.ลิตา ทราบ และ น.ส.ลิตา ได้บอกว่าจะโอนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้กับผู้เสียหาย 4 วัน วันละ 34,250 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 137,000 บาท และต่อมาผู้เสียหายได้ร่วมลงทุนกับ น.ส.ลิตา อีก เป็นเงินจำนวน 100,000 บาท โดยโอนผ่านแอปของธนาคาร เมื่อโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปแล้ว ผู้เสียหายได้แจ้งให้ น.ส.ลิตา ทราบ และ น.ส.ลิตา ได้บอกว่าจะโอนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้ในวันที่ รวมเป็นเงิน 137,000 บาท และเมื่อถึงกำหนดนัดหมายคืนเงินที่ผู้เสียหายลงทุน น.ส.ลิตา ไม่ยอมคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืน ผู้เสียหายพยายามติดตามทวงถามแต่ได้รับการผัดผ่อนเรื่อยมาและได้รับแจ้งว่าไม่มีเงินจ่ายคืนให้และไม่สามารถติดต่อได้ การกระทำดังกล่าวทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมาร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ลิตา ในความผิดฐานฉ้อโกง หรือความผิดที่เกี่ยวข้อง จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
โดยการกระทำความผิดในลักษณะนี้ ซึ่งเป็นท้าวแชร์ทางออนไลน์ หลอกให้ร่วมลงทุน ให้ผลตอบแทนสูงมาก มีผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ร่วมลงทุนเสียหายหลายล้าน ผู้ต้องหามีหมายจับติดตัว 4 หมายจับ และหลบหนีไปมาอยู่ตลอด โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 1 ปี ในการสืบสวนติดตามจับกุมมาดำเนินคดี
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับว่า ตนได้เปิดบ้านวงแชร์ออมเงินออมทองจริง และไม่ได้คืนเงินให้กับผู้เสียหาย แต่อ้างว่า ได้เงินไปลงทุนกับอีกท้าวแชร์อีกเจ้า ที่บอกให้ตนไปหาลูกค้ามาให้ และยังบอกว่า ตอนนี้กำลังขายทรัพย์สินเพื่อนำเงินไปคืนกับผู้เสียหาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยไปทำงานเป็นแอดมินเว็บพนันในประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจุบันหันมาประกอบอาชีพขายของออนไลน์
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ขอฝากเตือนว่า โลกปัจจุบันที่ประชาชนเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น จึงมีมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนผ่านการเล่นแชร์ออนไลน์ โดยจะมีการโฆษณาชักชวน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมิจฉาชีพจะอ้างว่าได้ผลกำไรสูง ในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งมิจฉาชีพมักจะทำให้ตายใจด้วยการจ่ายผลตอบแทนตามที่โฆษณาไว้เพื่อเป็นการหลอกให้ลงทุนสูงขึ้น และบางคนถึงขั้นไปชักชวนญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงมาร่วมลงทุนอีกด้วย ซึ่งสุดท้ายมิจฉาชีพมักจะอ้างว่าธุรกิจขาดทุน มีปัญหา จึงไม่สามารถส่งเงินได้ตามปกติ พร้อมทั้งบอกกับผู้เสียหายว่าอย่าเพิ่งแจ้งความ สุดท้ายจะตัดการติดต่อและหลบหนีไปในที่สุด