วันนี้ (13 เม.ย.) ซึ่งตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง เป็นวันเสาร์ห้าที่ยิ่งใหญ่เนื่องจากเป็นปีมะโรง หรือปีงูใหญ่ ตัวแทนของพญานาค สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของพระเสาร์ โดยหลังจากนี้จะมีวันเสาร์ห้าที่แท้จริงอีกครั้งในวันที่ 8 เมษายน 2577 ตรงกับวันเสาร์ แรม 5 ค่ำ เดือน 5 ปีขาล หรืออีก 10 ปีข้างหน้า
จึงไม่น่าแปลกใจที่วันนี้จะมีศิลปินดารานักแสดง ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง หน่วยงานสำคัญ วัดวาอาราม หรือพระเกจิอาจารย์ ทำพิธีไสยเวทปลุกเสกวัตถุมงคล ให้บังเกิดอิทธิคุณด้านมหาอำนาจ เพราะการทำพิธีวันนี้จะทำให้อิทธิฤทธิ์เหนือกว่าฤกษ์ปกติ ความตำราที่ว่า วันเสาร์ของกาลโยคประจำปีนี้ถือว่าเป็นวันธงไชย วันอำมฤตโชค และราชาโชค
อาทิ เหล่าตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร ร่วมกันดำเนินการจัดสร้างเหรียญพระนเรศวร เสาร์ 5 ครบรอบ 70 ปี ค่ายนเรศวร มีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้เป็นกองทุนบูรณะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ ค่ายเนศวร โดยจัดสร้างขึ้น จำนวน 7,000 เหรียญ ผ่านการพุทธาภิเษก ตามฤกษ์ เสาร์ 5 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง ที่วัดตาปะขาวหาย จ.พิษณุโลก ไปเป็นที่เรียบร้อย
พระครูโกศลอรรถสาร หรือ หลวงปู่สอน อตฺถโกสโล เจ้าตำรับยันต์ฝ่ามือพลิกชะตา เทพเจ้าของชาวสระแก้ว ได้ถือฤกษ์วันนี้ จัดพิธีพุทธาภิเษกเหรียญหล่อ ร.ศ 242 ฉลองกุฏิพุทธประวัติและหอระฆัง ณ วัดโคกสะพานขาว อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ขณะที่ นายอิศรากรณ์ สุวรรณทิพย์ ผู้ศรัทธาและเลื่อนใส “สมเด็จโต” วัดระฆัง กล่าวว่า วันที่ 13 เม.ย.นี้ ซึ่งตรงกับวันเสาร์ห้า ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง สำหรับสายมูฯ ที่ต้องการเสริมความป็นสิริมงคลให้กับตัวเอง ก็สามารถไปร่วมพิธีปลุกเสกตามวัดต่างๆ ที่จะมีการจัดขึ้นหลายแห่งได้ โดยถือโอกาสทำบุญสรงน้ำพระไปด้วยในวันเดียวกัน แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เดินทางไปไหน หรือไม่สะดวกที่จะเดินทางไปร่วมงานพิธีต่างๆ ตนมองว่า แค่ตั้งใจสวดมนต์ภาวนา ก่อนนอน 5-10 นาที ก็ได้บุญ
เพราะการสวดมนต์ก่อนนอน เป็นวิธีที่ทำให้จิตใจสงบ มีสมาธิ ทำให้หลับสบาย สำหรับคนที่ต้องการสวดมนต์ แต่ไม่ค่อยมีเวลาหรือไม่สามารถนั่งสวดมนต์นานๆ ได้นั้น สามารถสวดมนต์ได้อย่างสบายใจ ด้วย บทสวดมนต์ก่อนนอน แบบสั้น แต่ก็มีครบทุกบทที่จำเป็นในการเจริญจิต ภาวนา และอย่าลืมแผ่บุญส่วนกุศลนี้ไปถึงสรรพสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายให้ได้รับกุศลผลบุญอย่างครบถ้วน
เริ่มจากกล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ ฯ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ ฯ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ ฯ (กราบ)
ตามด้วยพระคาถาชินบัญชร (หลวงปู่โต พรหมรังสี)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (กล่าว 3 ครั้ง)
ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง
อัตถิกาเยกายะญายะ เทวานังปิยะตังสุตตะวา
อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ
มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ
ชะยาสะนากะตา พุทธา เชตวา มารัง สะวาหะนัง
จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา
ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา
สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเกเต มุนิสสะรา
สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน
สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร
หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะทักขิเณ
โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก
ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะ ราหุโล
กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก
เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร
นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว
กุมาระกัสสโป เถโร มะเหสี จิตตะ วาทะโก
โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะติฏฐาสิคุณากะโร
ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ อุปาลี นันทะ สีวะลี
เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเต ติละกา มะมะ
เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา
เอเตสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา
ชะลันตา สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา
ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง
ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง
ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง
อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา
ชินา นานาวะระสังยุตตา สัตตัปปาการะ ลังกะตา
วาตะปิตตาทะสัญชาตา พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา
อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะ เตชะสา
วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร
ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะฮี ตะเล
สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา
อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข
ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว
ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ
สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย
สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ
จากนั้นอย่าลืมแผ่เมตตา ให้แก่ตนเอง ด้วยบทสวดที่ว่า
อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
นิททุกโข โหมิ ปราศจากความทุกข์
อะเวโร โหมิ ปราศจากเวร
อัพยาปัชโฌ โหมิ ปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
อะนีโฆ โหมิ ปราศจากความทุกข์การทุกข์ใจ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ มีความสุขกายสุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกภัยทั้งสิ้นเถิด
แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ ด้วยคำกล่าวที่ว่า
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพะยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
ปิดท้ายด้วยบทสวดมนต์ แผ่ส่วนกุศลถึงบุพการี ญาติพี่น้อง และครูบาอาจารย์ ด้วยคำกล่าวดังนี้
อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่บิดามารดาของข้าพเจ้า ขอให้บิดามารดาของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของรข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ.