ทนายรณณรงค์พา น.ส.อ้อม ถูกหลอกโอนเงิน 3 แสนบาทให้หนุ่มสุรินทร์ผ่านบัญชีพระ เข้าแจ้งความหลังถูกข่มขู่ปล่อยคลิป
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 12 เม.ย. 67 นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พาน.ส.อ้อม (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 40 ปี อาชีพแม่บ้าน เดินทางเข้าแจ้งความกับร.ต.ท.พิมพ์นิภา ทองไชย รอง สว.สส.สภ.บางศรีเมือง หลังนายเวฟ อายุ 40 ปี คู่กรณี ชายหนุ่มที่ทักเข้ามาในเฟซบุ๊ก ตั้งแต่ปี 2564 แล้วหลอกแต่งงานก่อนจะหยอดคำหวานให้โอนเงินผ่านบัญชีไปที่พระรูปหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นเพื่อนของนายเวฟ ตลอดเวลาให้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายทุกเรื่อง จนสูญเงินกว่า 300,000 บาท เมื่อเอ่ยปากทวงถามก็ถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา หลังเป็นข่าวนายเวฟขู่ว่าจะเอาคลิปออกไปสู่โลกออนไลน์วันนี้จึงได้นำหลักฐานเดินทางเข้ามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
น.ส.อ้อม กล่าวว่า อยากให้นายเวฟออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ ตนรู้สึกกลัวและเสียใจมาก ทุ่มเทให้ทุกอย่างทั้งเงินทั้งใจ ถึงจะไม่มีตัวตนตอนนี้ตนก็ยังรู้สึกรักนายเวฟ เคยไปหาหลวงพี่ที่วัดถามหานายเวฟแต่ไม่เจอ นัดเจอกันก็จะมีเหตุการณ์ ตนทำงานที่สุรินทร์ทางนายเวฟก็อยู่สุรินทร์เหมือนกัน แต่มาเจอตนไม่ได้ วันนี้เลยเดินทางมาแจ้งความเนื่องจากถูกข่มขู่
ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้พาผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มเติมจากกรณีที่คู่กรณีขู่ว่าจะปล่อยคลิปหลุดสู่โลกออนไลน์ จึงได้เดินทางมาแจ้งความตามกฎหมาย เรื่องลหุโทษ สร้างความเดือดร้อนรำคาญ และข่มขืนใจให้กระทำการหรือ ไม่ให้ทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นข้อหาเบื้องต้น เคสนี้ผู้หญิงคนนี้ทำไมมีความหวัง ซึ่งผู้ชายเป็นพระหรือไม่ยังไม่ทราบ มีพินัยกรรมฉบับหนึ่งอ้างว่าเขียนให้น้องอ้อม ตนเลยเอาชื่อไปเช็คปรากฏว่าชื่อไม่มีอยู่จริง พระคงต้องอธิบาย ถ้าหลวงพี่บริสุทธิ์ใจ ตนอยากจะขอหลวงพี่ประชุมสายคือ 1.หลวงพี่ 2.นายเวฟ 3.น้องอ้อม ถ้า 3 คนประชุมสาย แล้วมีตัวตนจริง หลวงพี่กับนายเวฟไม่ใช่คนคนเดียวกันตนจะไม่ไปยุ่งกับหลวงพี่อีกเลย นอกแต่เสียว่าจะกันไว้เป็นพยานเพราะเงินเข้าบัญชีหลวงพี่ หลังจากตรวจข้อมูลเรียบร้อยพบว่าข้อมูลตรงไหนเป็นข้อมูลเท็จจะดำเนินคดีเพิ่มเติมของพรบ. คอมพิวเตอร์ การนำเข้าข้อมูลเท็จและเรื่องการฉ้อโกงตามมาตรา 341 อย่าเอาคลิปมาต่อรองกับการที่ผู้เสียหายจะมาแจ้งความ หรือจะไปใช้สิทธิ์วิ่งหาสื่อมวลชนเพราะเขาเดือดร้อน ถ้าคุณไม่ไปเทงานแต่งวันนั้นเขาคงไม่มายืนอยู่ข้างตนในวันนี้