บช.ก.แถลงผลคืบหน้าคดียึดกากแคดเมียมนับหมื่นตัน เตรียมสอบขยายผลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ ด้าน ผบช.ก.ลั่นพบความผิดถึงใครจะต้องถูกดำเนินคดีไม่มีละเว้น
วันนี้ ( 12 เม.ย.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส.ร่วมแถลงความคืบหน้ากรณีตรวจยึดกากแคดเมียม
โดย พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องกากแคดเมียมนั้น เริ่มต้นจากตำรวจปทส.ตรวจสอบพบว่า บริษัทผาแดง อินดัสตี้ ประธานบัตรหมดไปตั้งแต่ ปี 2559 แต่ทำไมยังมีรถขนสารอะไรออกมาอีก ทำให้เกิดความสงสัยจึงได้ตรวจสอบจนพบว่า บริษัทผาแดง ได้เปลี่ยนผู้ครอบครองใหม่ เป็นบริษัท เบาท์ แอนด์ บียอน จำกัด มหาชน เมื่อปี 2564 จากนั้นได้มีการขออนุญาตยื่นเรื่องขอนำกากปฏิกูล ซึ่งในวงเล็บบอกว่าขอนำสารแร่กากสังกะสี เพื่อขนย้ายไปที่โรงงานบริษัท เจแอนด์บี เมททอล จำกัด ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร เมื่อปี 2566
พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวต่อว่า หลังได้ข้อมูล บก.ปทส.ได้มาตรวจสอบดูเอกสารพบว่า ในปีเดียวกัน บริษัท เจ แอนด์บี ได้ขออนุญาตเพิ่มเติมในเรื่องการหลอมแคดเมียม ทำให้มองว่าน่าจะทำกันเป็นขบวนการ ตั้งแต่ต้นทางมีการขออนุญาตขนแคดเมียมเพื่อนำมากำจัดที่โรงงานบริษัท เจ แอนด์ บี ทั้งที่แต่เดิมบริษัทนี้ไม่สามารถกำจัดแคดเมียมได้ แต่กลับมีการไปเพิ่มใบอนุญาตขอกำจัดแคดเมียม ด้วยการเพิ่มเติมเครื่องจักร แต่จากการไปตรวจสอบในวันที่เข้าตรวจค้นกลับไม่พบเครื่องจักรที่จะสามารถกำจัดโลหะนี้ได้ ทำให้เป็นข้อสังเกตที่ทำให้เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนสอบสวนกรณีนี้
พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นได้รายงานเรื่องให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ทราบว่า บก.ปทส.จะมีเรื่องใหญ่เป็นการจับโรงงานจากต้นทางจังหวัดตาก มาปลายทางจังหวัดสมุทรสาคร แต่กรรมาธิการอุตสาหกรรมก็ทราบเรื่องนี้ด้วย จึงได้ประสานกับ บก.ปทส.จนพบว่ามีการขนกากแคดเมียมมาที่จังหวัดสมุทรสาครนี้จริง ก่อนประสานผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ให้ประกาศเป็นเขตพื้นที่ห้ามเข้า จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ บก.ปทส.
พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวด้วยว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 5 เม.ย. เจ้าหน้าที่ บก.ปทส.ได้ขอหมายค้นเข้าตรวจค้นบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ยึดกล้องวงจรปิด เอกสารเรื่องรถนำเข้าต่างๆ ต่อมา อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นหนังสือมายัง บก.ปทส.ในวันดังกล่าว จึงเป็นต้นเรื่องให้ ตำรวจ บก.ปทส.ตามยึดกากแคดเมียมและจับกุมเจ้าของโรงงานทั้งหมดไว้ได้เป็นไปตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้ รวมแคดเมียมที่ตรวจยึดจาก 5 โกดัง รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 1.2 หมื่นกว่าตัน ใกล้เคียงกับน้ำหนักที่แจ้งมาจากต้นทาง 1.3 หมื่นกว่าตัน จากการสอบสวนขยายผลทราบว่า ต้นเรื่องมาจากการที่มีนายหน้าเป็นลูกจ้าง ของบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล ดูแลพื้นที่อยู่ในจังหวัดตาก เป็นผู้ประสานติดต่อขายกากแคดเมียม ได้ค่านายหน้าตันละ 2 ร้อยบาท จนเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น
ผบก.ปทส.กล่าวอีกว่า ขณะนี้ บก.ปทส.กำลังขออนุญาตเรื่องการสอบสวน จาก บช.ก. ถ้าได้รับอนุญาตแล้ว จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนทุกมิติ ตั้งแต่ต้นทาง ปลายทาง ระหว่างทาง เพราะการขนย้ายจากต้นทาง มีการดำเนินการตามระเบียบ วิธีการ มีการชั่งน้ำหนัก หรือเมื่อถึงปลายทางแล้ว เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบว่าของมาถึงที่จริงหรือไม่ น้ำหนักเป็นตามที่แจ้งจริงหรือเปล่า ตรงนี้ตำรวจ บก.ปทส. จะต้องตรวจสอบทั้งหมด ส่วนที่ยังพบแคดเมียมอยู่ในโรงงาน เบื้องต้นทราบว่ากำลังรอตู้คอนเทรนเนอร์ว่าง จากนั้นถึงจะนำไปใส่ตู้ไปขึ้นเรือส่งไปประเทศจีน ทั้งนี้แคดเมียมมีสนธสัญญาห้ามส่งออกอยู่แล้ว การส่งวัตถุอันตรายออกนอกประเทศ จะต้องมีการรายงานเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม ให้ทราบก่อนถึงจะส่งออกนอกประเทศได้
พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนนายเจษฏา เก่งรุ่งเรืองชัย เจ้าของบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล นั้น ถือเป็นปลายทางที่ได้รับอนุญาตให้ขนแคดเมียมมา ดังนั้นการที่เจอแคดเมียมที่บริษัทเจ แอนด์ บี จึงเป็นเรื่องของการอนุญาต แต่การที่นำไปขายต่อถือว่าเป็นความผิด ทั้งนี้อุตสาหกรรมโรงงานสมุทรสาคร ได้แจ้งความร้องทุกข์ ตาม พ.ร.บ.โรงงาน อย่างเดียวก่อน จากนั้นจะต้องมาดูว่า ส่วนที่มีวัตถุอันตรายไว้ในการครอบครองนั่น ปกติจะต้องประกอบด้วย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ร.บ.แร่ พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ร.บ.ส่งเสริมรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่จะต้องถูกพิจารณาดำเนินคดีทางแพ่งด้วย นอกจากนี้ในเรื่องของการขออนุญาตการขนย้ายจากเจ้าหน้าที่รัฐนั้น ขณะนี้ได้ประสาน ตำรวจ บก.ปปป.ให้มาตรวจสอบดูที่มาของการขนแคดเมียม เพราะถัาจะขนย้ายได้ต้องเกิดจากความร่วมมือของเจ้าหน้าที่รัฐ กับบุคคลที่นำไปขาย คาดว่าทำกันเป็นระบบ
ผบก.ปทส.กล่าวต่อว่า ขณะนี้ บก.ปทส.กำลังรอการร้องทุกข์กล่าวโทษจากอุตสาหกรรมจังหวัดก่อน ตอนนี้ตำรวจทำได้เพียงเรื่องทีมสอบสวน ส่วนเรื่องการสืบสวนได้มอบหมายให้พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส.ไปสืบสวนลงพื้นที่จังหวัดตาก นำเอกสารความเป็นมาต่างๆ ในเรื่องการขนแคดเมียม มาตรวจสอบจากนั้นถึงจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ปากคำ แต่ท้้งนี้อุตสาหกรรมจังหวัดประสานมาว่า การให้ปากคำ รัฐมนตรีอุตสาหกรรมและปลัดฯ จะขอเป็นผู้ให้ข้อมูลเอง เนื่องจากกลัวว่าถ้าปล่อยให้หน่วยงานมาให้ข้อมูลแล้วจะคลาดเคลื่อนไม่ตรงกัน เท่าที่ทราบขณะนี้กระทรวงอุตฯได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนขึ้นมา เพื่อหาสาเหตุว่าทำไมถึงขนแคดเมียมนี้ได้ ทั้งที่มีการฝังกลบถาวรไปแล้ว เมื่อคณะกรรมการสอบสวนเสร็จแล้ว ตำรวจ บก.ปทส.จะขอเอกสารจากคณะกรรมการมาดูว่าเจ้าหน้าที่รายไหนบ้างที่บกพร่องหรือว่ามีการร่วมกันสนับสนุนกันอย่างไร จากนั้นจะดำเนินการในส่วนนี้ต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งให้สืบสวนสอบสวนขยายผล พร้อมจะดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเอกชนหากพบการกระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นนิติบุคคล หรือเป็น บุคคลธรรมดา จะดำเนินคดีตามกฏหมายทุกคนไม่มีละเว้น สำหรับแนวทางการทำงานของตำรวจบก.ปทส.ต่อไปหลังจากนึ้ จะเน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังจะเห็นว่า มีการไปจับบ่อขยะ ดูเรื่องน้ำเสียอากาศเสีย และเรื่องต่างๆ ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา โดยจะมีการประสานร่วมกันกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยต่อไป