รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 วันอังคารที่ 9 เมษายน 2567 นำเสนอรายงานพิเศษ เชื้อชั่วไม่มีวันตาย ซ้อมพลทหารในกองทัพ
เพิ่งประกาศอยู่หยก ๆ ว่า จะปฏิรูปกองทัพ ดูแลคุณภาพชีวิตของชายไทยที่เกณฑ์ทหารเข้ามารับใช้ชาติ
ไม่ทันไร วาทะสวยหรูดูอบอุ่นของนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ส่งผ่านไปถึงบรรดาแม่ทัพนายกอง ก็ดูจะไม่ต่างอะไรกับลมปากที่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของผู้เกี่ยวข้อง
เพราะเพียงแค่ไม่กี่วัน หลังเริ่มเทศกาลจับใบดำใบแดงในฤดูเกณฑ์ทหารเดือนเมษายน 2567 เรื่องฉาวโฉว่จากการลงมือลงไม้ ทำร้ายร่างกายพลทหารที่มีนิยามสวยหรูว่าเป็นน้องนุชคนสุดท้องของกองทัพ ก็ ปรากฏเป็นข่าวที่ถูกเปิดโปงขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งที่ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพิ่งจะมีกรณีมรณะกรรมปริศนาทหารเกณฑ์ผูกคอตายในค่าย ตามมาด้วยการกระโดดจากโรงนอนชั้นสองลงมากระแทกพื้นอาการเป็นตายเท่ากันของทหารเกณฑ์รายที่ 2
ทั้งที่ผลการสอบสวนยังไม่มีการสรุปแน่ชัด ข่าวฉาวชะตากรรมพลทหารก็กระหึ่มขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เหตุเกิดที่กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์เขตดุสิตกรุงเทพมหานคร ซึ่งถือว่าอยู่ใต้จมูกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก โดยเรื่องราวที่ถูกแชร์ ในโลกโซเชียลก็คือ
คลิปที่พลทหารรายหนึ่งถูกสิบเวรทำร้ายร่างกาย เนื่องจากหนีเที่ยวออกนอกค่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือเป็นความผิดตามวินัยทหาร
ทั้งนี้เจ้าตัวได้ออกมาไลฟ์สดผ่านทาง Facebook ของตนเอง ยอมรับว่า กระทำผิดจริง และยินดีรับโทษทัณฑ์ตามกฎระเบียบของกองทัพ อันประกอบด้วย การกักบริเวณ การจำขัง การทำทัณฑกรรม แต่สิ่งที่เจ้าตัวรับไม่ได้กับการที่สิบเวรลงโทษด้วยการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ และมีการข่มขู่จนพลทหารคนดังกล่าวถึงกับพูดผ่าน Facebook ว่า
หากสงกรานต์นี้ไม่ได้กลับบ้าน ก็แปลว่าถูกฆ่าตายอยู่ในค่าย ขอให้ญาติพี่น้องนำหลักฐานนี้ไปดำเนินการขอความเป็นธรรมให้ด้วย
นอกจากนี้พลทหารเหยื่อบาทา ผู้มีนามว่าพลทหารทักษิณ ยังระบายความรู้สึกคับแค้นใจด้วยว่า ตนเองไม่ได้อยากเป็นทหาร แต่เข้ามาเพราะต้องจับใบดำใบแดง ครั้นเข้ามาแล้วกลับต้องมีหน้าที่ขัดรองเท้าทำความสะอาด รับใช้เมียของผู้บังคับบัญชา ทั้งนี้พลทหารทักษิณย้อนถามว่า นี่หรือคือหน้าที่ของผู้ที่ถูกเกณฑ์มารับใช้ชาติ หรือเข้ามารับใช้ใครกันแน่
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้น ในคืนวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา พันเอกฤทธิ์ชา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า กองทัพบกรับทราบแล้ว และยอมรับว่า มีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง โดยมีพลทหารกลุ่มหนึ่งหนีออกจากค่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อกลับเข้ามาพบกับ สิบเวร จึงถูกทำโทษ
แต่พลทหารซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา แสดงกิริยาก้าวร้าวสิบเวร จึงบันดาลโทสะใช้เท้าถีบไปที่เอวของพลทหารทักษิณ ทั้งนี้ผู้บังคับกองร้อยได้สั่งลงโทษสิบเวรในเบื้องต้น ด้วยการกักบริเวณแล้ว และจะดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
อย่างไรก็ตาม คำชี้แจงของรองโฆษกกองทัพบก ดูเหมือนจะขัดแย้งกับสิ่งที่เป็นเสมือนหลักฐาน Digital Print ที่พลทหารทักษิณแปะไว้ใน Facebook ที่แสดงให้เห็นว่า เกิดอะไรขึ้น กับตนเองและเพื่อน อีกทั้งน้ำเสียงในการพูดจา ก็ฟังดูเหมือนคนที่เจ็บช้ำน้ำใจ ถูกบีบคั้นความรู้สึก เก็บกด ไม่ใช่การพูดจา หรือการแสดงอาการแบบคนมึนเมา ตามที่รองโฆษกกองทัพบกออกมาชี้แจงแต่อย่างใด
ดังนั้นสิ่งที่กองทัพควรตระหนักก็คือ การยอมรับความจริงในประเด็นที่ว่า การทำร้ายร่างกายพลทหาร หรือการนำทหารเกณฑ์ไปรับใช้ผู้บังคับบัญชา หรือเมียผู้บังคับบัญชา เป็นเรื่องที่ มีอยู่จริง แต่การลงโทษผู้เกี่ยวข้องหรือผู้กระทำในสิ่งที่เกินอำนาจหน้าที่ไม่เคยเกิดขึ้นอย่างจริงจัง
และในทุกครั้งที่มีเรื่องราวฉาวโฉ่ปรากฏเป็นข่าวขึ้นมา กองทัพก็จะออกมาชี้แจงที่เสมือนเป็นการแก้ตัวแบบเดิมๆ ราวกับเป็นบทท่องจำที่ว่า
ทางกองทัพทราบเรื่องแล้ว และผู้บังคับบัญชามิได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายโดยไม่มีการปกป้องคนผิดแต่อย่างใด
หลังชาวบ้านได้ยินบทท่องจำดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เรื่องก็จะค่อยๆ เลือนหายไป จากความสนใจของสังคม จนกว่าเหตุการณ์ครั้งใหม่จะเกิดขึ้น กล่าวคือพลทหารคนใหม่ถูกซ้อมในค่ายทหารแห่งใหม่ ผู้ลงมือเป็นนายสิบหรือนายร้อยคนใหม่
เมื่อถึงวันนั้นที่มีเหตุการณ์ใหม่ ซ้ำซากกับเรื่องที่เคยเกิดขึ้น บทอาขยานอันเป็นคำชี้แจงของกองทัพ ก็จะถูกนำมาขับขานอีกครั้งหนึ่ง
--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android