ตำรวจสืบสวนนครบาลจับ “ป๋าตือ” วัย 70 ปี หัวหน้าคณะเชิดสิงโต ย่านดินแดง หลังล่วงละเมิดเด็กหญิง วัย 8 ขวบ ก่อเหตุตั้งแต่ปี 61-66 นาน 5 ปี
วันนี้ (6 เม.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.1 บก .สส.บช.น. พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว กก.4 บก .สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่สืบนครบาลร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายปิ๋ว หรือ ป๋าตือ อายุ 70 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.1210/2567 ลงวันที่ 22 มี.ค. 67 โดยกล่าวหาว่า “พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร , กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี , กระทำชำเราแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจาร” จับกุมตัวได้ที่ บริเวณหมู่บ้านการเคหะ ซ.นวมินทร์45 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
โดยพฤติการณ์คดีนี้สืบเนื่องจาก มีเสียงร้องไห้กระซิกเบาๆ ที่ชวนขนหัวลุกในทุกค่ำคืน ภายในบ้านหลังหนึ่งย่าน จ.นนทบุรี โดยหญิงวัยกลางคนผู้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวและลูกๆ ที่พักอาศัยอยู่ในบ้านต่างสัมผัสได้ถึงเสียงที่ไม่มีที่มาที่ไปนี้มาเป็นเวลาหลายปี แต่ก็ไม่สามารถทราบถึงต้นตอของเสียงได้ จนกระทั่งกลางปี 2566 จุดเริ่มต้นของเรื่องราวแสนหดหู่ได้แดงขึ้น เมื่อบุตรสาวคนสุดท้องที่พักอยู่ในบ้านหลังนี้ได้มาพูดกับแม่ว่า “หนูอยากย้ายบ้าน” โดยมีใบหน้าและท่าทางที่สุดแสนจะเศร้าหมอง แม่จึงเริ่มถามไถ่สาเหตุจากบุตรสาวจนได้ทราบว่า แท้จริงแล้วเสียงที่ชวนขนหัวลุกทุกค่ำคืนนั้นไม่ใช่เรื่องอาถรรพ์ในบ้านแต่อย่างใด แต่มันเป็นเสียงร้องไห้ของ “น้องเอ” (นามสมมุติ) บุตรสาว อายุ 13 ปี ที่แอบร้องไห้ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา สัญชาตญาณผู้เป็นแม่สัมผัสได้ถึงเรื่องเลวร้าย จากนั้นน้องเอได้ระบายความอัดอั้นภายในใจนานกว่า 3 ชั่วโมง
โดยจุดเริ่มต้นเรื่องราวย้อนกลับไปตั้งแต่ ปี 2561 ขณะนั้นน้องเออายุ 8 ปี ผู้เป็นแม่ได้พบกับความรักครั้งใหม่และมักจะเดินทางไปมาหาสู่ที่บ้านของแฟนคนใหม่ย่านดินแดง กรุงเทพฯ อยู่บ่อยครั้ง ทุกครั้งแม่ก็จะพาน้องเอไปอยู่ด้วย โดยภายในบ้านฝ่ายชายนั้นดูเหมือนจะไม่มีพิษภัยใด เพราะนอกจากตัวเขาแล้วก็มีเพียงผู้เฒ่าวัยชราอีก 2 คน ที่เป็นพ่อและแม่ของฝ่ายชายพักอาศัยอยู่ในบ้านด้วย กระทั่งเมื่อช่วงปลายปี 2561 ขณะนั้นแม่และแฟนคนใหม่ได้ออกไปข้างนอก ภายในบ้านเหลือเพียงเธอกับผู้สูงอายุอีก 2 คน ที่ยังอยู่ในบ้าน ในวันนั้น “ป๋าตือ” ผู้เฒ่าอายุ 70 ปี ได้ชักชวนเธอลงจากบ้านเพื่อไปซื้อขนม แต่เมื่อถึงบ้านชั้นล่างกลับลวงเธอเข้าไปในห้องครัวก่อนจะจับเธอถอดเสื้อผ้าแล้วลงมือข่มขืนเธอในห้องครัวอย่างรุนแรง เธอเจ็บมากแต่ก็ไม่กล้าขัดขืนเพราะผู้เฒ่าคนก่อเหตุได้หยิบมีดในห้องครัวมาข่มขู่ว่าหากบอกใครจะถูกฆ่า
ซึ่งหลังจากวันนั้นบ้านพักที่ดินแดงนี้ก็เหมือนเป็นนรกสำหรับน้องเอ น้องถูกคนร้ายนี้ข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเรื่อยมาเป็นเวลากว่า 5 ปี ตั้งแต่อายุ 8 ปี จนถึงปัจจุบันเธออายุ 13 ปี ไม่กล้าบอกใครเพราะคำขู่ฆ่าเป็นภาพจำ น้องเอทำได้เพียงร้องไห้เบาๆ เพื่อมิให้ใครได้ยินทุกค่ำคืน มันไม่ใช่เสียงอาถรรพ์ใดๆ แต่มันเป็นเสียงของความอัดอั้นตันใจ ของเด็กสาวคนหนึ่งที่ถูกกระทำย่ำยีมาตลอด 5 ปี จากเรื่องอาถรรพ์กลายเป็นเรื่องราวที่แสนสะเทือนใจ ถ่ายทอดผ่านน้ำตาเด็กสาวกว่า 3 ชั่วโมง สะท้านไปทั้งหัวใจผู้เป็นแม่ จึงพาเธอเข้าแจ้งความดำเนินคดีก่อนจะหอบข้าวของทิ้งทุกสิ่งอย่างออกจากบ้านฝ่ายชายในทันที ซึ่งล่าสุดผู้ก่อเหตุถูกออกหมายจับแล้ว คือ นายปิ๋ว พ่อใหญ่แห่งตระกูลดัง และยังเป็นถึงเจ้าของคณะเชิดสิงโตย่านดินแดง แต่เจ้าตัวไหวตัวทันหลบหนีขนของออกจากบ้านพักแล้วหายเข้ากลีบเมฆไปในทันที อีกทั้งเจ้าตัวยังมีเส้นสายคอยส่งซิกให้ ทำให้เจ้าตัวแคล้วคลาดรอดตัวได้จนถึงปัจจุบัน
ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ส่งชุดสืบนครบาลลงพื้นที่ไล่ล่าในทันที แต่งานนี้ไม่ง่ายเพราะคนร้ายรู้จักการต่อต้านการสืบสวนเป็นอย่างดี ทำเอาเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเกือบ 2 สัปดาห์ จนกระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ชุดสืบสวนนั่งแวะพักเหนื่อยในตลาดแห่งหนึ่งย่านนวมินทร์ เสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจ ขณะที่ชุดสืบสวนจะจ่ายค่าอาหารได้ทำเงินเหรียญร่วมไปบนพื้น และขณะก้มเก็บได้เห็นขาของวัยรุ่นคนหนึ่งสวมเกี๊ยว (อุปกรณ์กันกระแทกของคนเชิดสิงโต) สะกิดใจให้ชุดสืบสวนสะกดรอยไป นำมาสู่การพบและจับกุมตัวคนร้ายได้ในที่สุด
ในชั้นจับกุม นายปิ๋วให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา หลังจับกุมตัว ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของคนร้าย ถึงแม้คนร้ายเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือในวงคณะเชิดสิงโต ไม่มีเหตุผลใดที่เด็กสาวผู้เสียหายจะต้องโกหกอีกทั้งมีพยานหลักฐานอื่นๆยืนยันถึงการกระทำผิดของคนร้าย จึงนับว่าน่าหดหู่ใจอย่างยิ่งที่สถานที่ปลอดภัยที่สุดของเด็กๆ กลับกลายเป็น “นรกบนดิน” ที่สร้างสมฟูมฟักบาดแผลหยั่งลึกลงในใจของเด็กน้อยไปนานแสนนาน ผมขออวยพรให้น้องผู้เสียหายมีกำลังใจที่เข้มแข็งผ่านพ้นเรื่องเลวร้ายในอดีต และขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ให้สอดส่องพฤติกรรมของบุตรหลานท่าน อย่าได้นิ่งดูดายเพราะพวกเขาอาจจะประสบอยู่กับเรื่องเลวร้ายเช่นนี้อยู่ก็เป็นได้ และหากทราบเบาะแสโปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท. ผบ.ตร. และ ผบช.น.