xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : กองทัพ-เพื่อไทย ความสัมพันธ์เปราะบาง พร้อมแตกหักทุกเมื่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน 2567 ตอน กองทัพ-เพื่อไทย ความสัมพันธ์เปราะบาง พร้อมแตกหักทุกเมื่อ



น่าสนใจไม่น้อยกับท่าทีของ 'เศรษฐา ทวีสิน' นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่มีต่อเรื่องการทำรัฐประหารในประเทศผ่านการให้สัมภาษณ์สำนักข่าว FRANCE24ของประเทศฝรั่งเศส เพราะมีไม่บ่อยนักที่นายกฯจะแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้

โดยตอนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์นั้นนายกฯเศรษฐา ระบุว่า "ไม่กังวลกับสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่จะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตนสามารถควบคุมได้ และก็เรียนรู้จากความผิดพลาดของรัฐบาลชุดก่อน มีเป้าหมายชัดเจนว่า ต้องการทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยดีขึ้น พร้อมมั่นใจว่าอนาคตของประเทศไทยจะเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เพราะมิเช่นนั้นตนก็คงจะไม่ได้นั่งอยู่จุดนี้"

อย่างที่ทราบกันดีกว่าพรรคเพื่อไทยตั้งแต่สมัยเป็นพรรคไทยรักไทยได้ถูกรัฐประหารมาแล้วถึงสองครั้ง แต่ละครั้งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือแตกต่างกันไป เช่น ครั้งที่ 1 เมื่อปี 2549 มีผลให้นายทักษิณ ชินวัตร ถูกตรวจสอบการทุจริตอย่างหนัก นำมาซึ่งการยึดทรัพย์และพิพากษาจำคุก จนต้องระหกระเหินนอกประเทศเกือบสองทศวรรษ

ส่วนครั้งที่ 2 เมื่อปี 2557 ผลกระทบในเชิงคดีความอาจจะไม่เท่ากับครั้งแรก แต่จนถึงทุกวันนี้ 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' ก็ยังไม่ได้กลับประเทศไทย

ดังนั้น การเป็นรัฐบาลอีกครั้งของพรรคเพื่อไทยก็ถูกจับตามองเช่นกันว่าจะประสานและรักษาความสัมพันธ์กับกองทัพอย่างไร

สถานะของกองทัพในวันนี้ไม่เหมือนกับในอดีต เนื่องจากปัจจุบันถูกตรวจสอบจนกลายเป็นกระแสให้เกิดการปฏิรูปกองทัพ ภายหลังเกิดปัญหาสิทธิมนุษยชนภายในกองทัพ หรือ ความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ เรียกได้ว่าเป็นภัยคุกคามใหม่ที่กองทัพไม่เคยเผชิญมาก่อน ประกอบกับการเติบโตแบบก้าวกระโดดของพรรคก้าวไกล ยิ่งทำให้กองทัพรับมือได้ยากขึ้นไปอีก

ครั้นจะแก้ไขปัญหาเหมือนในอดีตด้วยการใช้ระบบอำนาจนิยมหรือความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว ก็ไม่อาจทำได้แล้ว เนื่องจากบริบทของสังคมตอนนี้ต้องการคำชี้แจงในเชิงข้อเท็จจริงและข้อมูลที่ถูกต้องมากกว่าการผลิตซ้ำวาทกรรม "คนดี-รักชาติ'

ด้วยเหตุนี้ทำให้กองทัพกับพรรคเพื่อไทยต้องจับมือร่วมการเฉพาะกิจ เพื่อผ่านศึกนี้ไปด้วยกัน จึงเป็นคำตอบทำไมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมถึงต้องชื่อ 'สุทิน คลังแสง'

'บิ๊กทิน' ไม่ใช่นักการเมืองที่มีความเชี่ยวชาญงานราชการที่เกี่ยวข้องกับภารกิจด้านความมั่นคง แต่สิ่งสุทินมีโดดเด่นและเหมาะกับสถานการณ์ในเวลานี้ คือ 'ความเป็นเอกของฝีปาก' ซึ่งนั่นก็ได้ผล เพราะหลายต่อหลายครั้งที่กองทัพต้องเผชิญกับคำถามของสังคม ปรากฎว่าก็ได้ 'บิ๊กทิน' ช่วยไว้ทุกครั้งด้วยการใช้วาทศิลป์ ประหนึ่งเป็นหน่วยกันชนที่รับแรงกระแทกไว้ให้ก่อน ซึ่งถือเป็นงานถนัดของคนเป็นนักการเมือง

ยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพและพรรคเพื่อไทยแน่นแฟ้นมากขึ้น จนอาจเป็นปัจจัยที่ไปเสริมให้นายกฯเศรษฐาประกาศไม่กลัวการรัฐประหาร

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายด้านหนึ่งยังมีความเปราะบางพอสมควรเช่นกัน โดยเฉพาะการกลับมาเชิดฉายอีกครั้งของ 'ทักษิณ ชินวัตร' ซึ่งอยู่ในระหว่างการพักโทษ จากคนที่เคยป่วย จนต้องนอนในโรงพยาบาล กลายมาเป็นคนแข็งแรงเดินสายพบคนไปทั่ว และเป็นผู้ชี้ทางไปซ้ายหรือขวาให้กับพรรคเพื่อไทย จนบางฝ่ายมองปรากฎการณ์นี้ว่าเป็นการกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งของ 'ระบอบทักษิณ'

ด้วยสถานะของกองทัพ ณ ตอนนี้ ยังไม่มีความชอบธรรมมากพอที่จะเข็นรถถังออกมาทำงานใหญ่ได้ แต่ต้องไม่ลืมว่าในอีกด้านหนึ่งก็มีขบวนการที่เซาะกร่อนระบอบการปกครองเช่นกัน ซึ่งหากวันหนึ่งพรรคเพื่อไทยไม่อาจแก้ไขปัญหานี้ได้ หรือเลยเถิดถึงขนาดที่ระบอบทักษิณใหญ่ขับประเทศเกินไป อาจเป็นไปได้ที่กองทัพต้องออกมาจัดการทั้งสองเรื่องนี้ไปพร้อมกันด้วยตัวเอง

-------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น