ตำรวจ บช.สอท. นำหมายเข้าตรวจค้นบ้านพัก ย่านเมืองนนทบุรี ก่อนจับกุม “ร.ต.ท.” ในสังกัด ลักลอบผลิตปืนอัดลม ขายผ่านทางออนไลน์ รายได้กว่า 3 แสนบาทต่อเดือน
วันนี้ (4 เม.ย.) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.นรวัฒน์ คำภิโล รอง ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 พ.ต.อ.สุบรรณ โชคพิมพา ผกก.1 บก.สอท.4 และ พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.2 บก.สอท.4 นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรีที่ ค.329/2567 ลงวันที่ 2 เม.ย. เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 123/365 หมู่บ้านนันทนา ต.บางรักน้อย อ.เมืองจ.นนทบุรี หลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวถูกใช้เป็นสถานที่ในการจำหน่ายอาวุธปืนผ่านทางออนไลน์
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สองชั้น เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจค้น โดยขณะเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบ ร.ต.ท.ปัณณทัต (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ตำแหน่งรอง สว.ในสังกัด บก.อก.สอท. กำลังแพ็กอาวุธปืนเพื่อจัดส่งทางไปรษณีย์ให้กับลูกค้า ซึ่งทันทีที่ ร.ต.ท.ปัณณทัต เห็นเจ้าหน้าที่ก็มีสีหน้าตกใจ ก่อนรับเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว และยินยอมให้ตรวจสอบ
จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนยาวอัดลม 3 กระบอก พานท้ายปืน 100 ชิ้น ลำกล้องปืนสไนเปอร์ 150 ชิ้น ที่สูบลมปืนแบบมือ 20 ตัว ที่สูบลมไฟฟ้า 2 ตัว กริปมือ 120 ชิ้น ชุดยิง 47 ตัว กระสุนหัวร่มกว่า 200 นัด และอุปกรณ์อื่นๆ จำนวนมาก จึงได้ทำการตรวจยึดไว้
พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจากข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้กำชับการปฏิบัติให้ บช.สอท. เร่งปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ โดยให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรมภายใน 30 วัน ประกอบกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 1-10 เม.ย. กระทั่งพบว่ามีการนำเสนอขายอาวุธปืนยาวอัดลมแรงดันสูง ผ่านทางแอปพลิเคชันยูทูบ ช่อง AUNDERCOVER ก่อนที่จะให้ผู้ที่สนใจติดต่อผ่านไอดีไลน์ @tdz8888 เพื่อทำการติดต่อซื้อขาย ซึ่งไลน์ดังกล่าวมีสมาชิก 6,238 คน ผู้ติดตาม 2,552 คน จึงได้ทำการสั่งซื้อ จนพบข้อมูลว่ามีการส่งอาวุธปืนอัดลมผ่านทางบริษัทขนส่งเอกชน โดยใช้บ้านหลังดังกล่าวเป็นสถานที่ในการจัดส่ง จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำการเข้าตรวจค้น
จากการสอบสวน ร.ต.ท.ปัณณทัต ให้การรับสารภาพว่า มีความชื่นชอบในเรื่องของอาวุธปืน จึงได้ทำการศึกษาและได้ทดลองสั่งอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ อุปกรณ์ส่วนควบ เกลียวลำกล้อง และชุดลั่นไก มาจากทางออนไลน์ ก่อนทำการขายให้กับกลุ่มลูกค้า ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบอาวุธปืน และกลุ่มชาวสวนที่จะนำปืนไปยิงสัตว์ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานเป็นหลัก ที่ผ่านมาทำมาแล้วกว่า 3 ปี มีลูกค้าสนใจสั่งซื้อเฉลี่ยเดือนละ 20-30 กระบอก ขายกระบอกละ 15,000 บาท กำไรหลังจากหักต้นทุนแล้วตกเฉลี่ยกระบอกละ 3,000-4,000บาท ทำให้ต่อเดือนจะมีรายได้กว่า 3 แสนบาท
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.วรวัฒน์ ได้สั่งการให้ต้นสังกัดของนายตำรวจนายนี้ ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว เพื่อดำเนินการในส่วนของวินัยและอาญาตามขั้นตอน นอกจากนี้ได้เน้นย้ำในที่ประชุมว่าให้ดำเนินการตามกฎหมาย หากพบมีตำรวจในสังกัดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการกระทำผิด ส่วนอาวุธปืนอัดลมที่ตรวจยึดนั้น แม้ไม่ใช่อาวุธปืนจริง แต่หากมีการนำมาใช้งานก็เป็นอันตรายแก่ชีวิต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน ทั้งนี้ยังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่าในห้วงตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.-13 ก.พ. ที่ผ่านมา มีการส่งพัสดุทั้งหมด 104 ครั้ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวสอบสวนและขยายผล พร้อมแจ้งข้อหาข้อหาจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป