ตำรวจสืบสวนนครบาล จับสาววัย 24 ปี เปิดบัญชีม้าให้แก๊งไฮบริดสแกม หลอกลวงเหยื่อให้หลงรัก แล้วชักชวนลงทุน เสียหายกว่า 1.7 ล้านบาท
วันนี้ (2 เม.ย.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4 ดำเนินการจับกุม น.ส.เสาวลักษณ์ อายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.241/2567 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นๆ และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้เจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้หมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” จับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถร้านสะดวกซื้อ ซ.6 มหาวงษ์ ต.สําโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 17.30 น.
โดยพฤติการณ์สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กปลอมเป็นหนุ่มนักธุรกิจ โสด หน้าตาดี ทำธุรกิจ อยู่ จ.ภูเก็ต และได้พูดคุยกันเรื่อยมา เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน จนกระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อ หลงรัก ว่า บุคคลคนนี้มีตัวตนอยู่จริง จากนั้นคนร้ายได้เชิญชวนผู้เสียหายให้ลงทุนเล่นหุ้น ทองลอนดอน โดยอ้างว่าเมื่อลงทุนไปแล้วได้ผลตอบแทนดี ประมาณ 10% ต่อวัน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปจำนวน 3 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 1,700,000 บาท ซึ่งต่อมาผู้เสียหายทำทุกวิธีทางเพื่อกู้ยืมเงินเพิ่ม แต่ไม่สามารหาเงินมาให้กลุ่มคนร้ายได้ จนกระทั่งมีสติและรู้ว่าตนเองถูกหลอก
โดยผู้เสียหายได้โอนเงินไปยังบัญชีผู้ต้องหา เมื่อเงินโอนเข้าบัญชีผู้ต้องหาดังกล่าวแล้ว จะโอนเงินออกไปยังบัญชีบุคคลอื่นโดยเร็วทุกรายการ อันเป็นพฤติการณ์ลักษณะบัญชีม้า ที่ใช้ในการรับเงินและโอนเงินออกของแก๊งมิจฉาชีพ ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นลักษณะแผนประทุษกรรม Hybrid Scam หลอกให้ผู้เสียหายหลงรักและเชื่อใจ จากนั้นหลอกลวงให้ลงทุน เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายกว่า 1,700,000 บาท
จากการซักถามผู้ต้องหาให้การว่า เมื่อปี 2565 ผู้ต้องหาเคยไปทำงานเป็นพนักงานเว็บไซต์พนันออนไลน์ในประเทศเพื่อนบ้าน และเมื่อปี 2566 เคยเปิดบัญชีให้เพื่อนเพื่อนำไปใช้รับเงินจากเว็บพนันและได้รับเงินตอบแทนจำนวน 1,000 บาท
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กว่าวว่า ตนเองมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ไม่อยากให้ตกเป็นเหยื่อ จึงฝากข้อควรระวัง ไม่ควรรับแอดเพื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นชาวต่างชาติ ที่ใช้ภาพหนุ่มสาวหน้าตาดี หากจะรับก็ขอให้ตรวจสอบข้อมูลในบัญชีให้ดี อาจตรวจสอบได้โดยขอนัดเจอตัวจริง หรือร้องขอให้เปิดกล้องวิดีโอคอล ให้เห็นหน้าเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับรูปในโปรไฟล์จริงๆ (หน้าตรงปก) และหากมีการชักชวนลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะจากเพื่อนหรือพัฒนาจากเพื่อนเป็นคนรักในสื่อสังคมออนไลน์ ที่เราไม่เคยเจอตัวจริง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ และควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของการลงทุนตามที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นจริงหรือไม่อย่างไร