สภาทนายความช่วยชาวประมงพื้นบ้าน จ.ระยอง ยื่นฟ้องแพ่ง บริษัทน้ำมันปล่อยมลพิษ เหตุน้ำมันรั่วลงทะเล เมื่อปี 2565 ระบุจ่ายค่าชดเชย ต่ำกว่าความเป็นจริง เรียกค่าเสียหาย 240 ล้าน
วันนี้ (28 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลแพ่งแผนกคดีสิ่งแวดล้อม ถ.รัชดาภิเษก นายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ มอบหมายให้ ว่าที่ร้อยตรี สมชาย อามีน ประธานอนุกรรมการสิ่งแวดล้อมฝ่ายคดีและปฏิบัติการ พร้อมคณะทำงานฝ่ายคดีของสภาทนายความและชาวบ้านจ.ระยอง เดินทางมายื่นฟ้องบริษัทเอกชน ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพลังงาน กับพวก เป็นจำเลยที่ 1-6 เรื่องละเมิดตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 คดี
กรณีชาวประมงที่จ.ระยอง นำโดยนายละหม่อม บุญยงค์ และตัวแทนกลุ่มประมงจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นกลุ่มประมงเรือเล็ก กลุ่มลูกจ้างประมงและกลุ่มค้าขายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วในทะเลระยองเมื่อต้นปี 2565 มีน้ำมันดิบรั่วไหลจำนวนมาก ทำให้กลุ่มชาวบ้านดังกล่าว ได้รับผลกระทบต่อวิถีชีวิตและทางทำมาหาได้ และไม่ได้รับการชดเชยจากบริษัทที่ก่อมลพิษ หรือได้รับค่าชดเชยจำนวนต่ำกว่าความเสียหายจริง จึงได้รวมตัวกันตั้งผู้แทนโจทก์จำนวน14 คน จากสมาชิกกลุ่มจำนวนกว่า 800 คน มายื่นฟ้องบริษัทให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้ง14 คนและสมาชิกกลุ่มประมง กลุ่มลูกจ้างประมงและกลุ่มค้าขาย รวมถึงให้แก้ไขฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศน์ทางทะเลให้กลับคืนสภาพเดิม
นายสมชาย กล่าวว่า ยื่นฟ้องคดีแบบละเมิด เรื่องสิ่งแวดล้อม กรณีเหตุน้ำมันรั่วที่ทะเลจังหวัดระยองเมื่อต้นปี 2565 แต่คดีนี้ ผู้ประกอบการขาดความรับผิดชอบการชดเชยความเสียหายให้กับชาวบ้านในพื้นที่จึงรวมตัวกันมาฟ้องคดีที่ศาลแพ่ง แผนกคดีสิ่งแวดล้อมเป็นคดีแบบกลุ่ม โดยมีตัวแทนฟ้องคดี 14 คน เป็นตัวแทนของชาวบ้านที่เสียหายในแต่ละกลุ่มเช่นกลุ่มประมงเรือเล็กกลุ่มลูกจ้างประมงและกลุ่มค้าขายที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการในพื้นที่ไม่ได้ เนื่องจากมีเหตุน้ำมันรั่วจึงรวมตัวกันมาฟ้องวันนี้ เป็นตัวแทนโจทก์ 14 คน และมีสมาชิกกลุ่ม อีก ประมาณ 800 คน นอกจากนี้แล้วสมาชิกกลุ่มที่ไม่ทราบชื่อและหากได้รับความเสียหายในลักษณะเดียวกันสามารถมีสิทธิ์ที่จะได้รับค่าชดเชยเยียวยาได้เช่นเดียวกัน
ค่าเสียหายที่มีการเรียกคือชดเชยค่าขาดรายได้ ขาดการใช้ประโยชน์ในการทำมาหากินได้เหมือนเดิม การถูกละเมิดสิทธิ์ในสิ่งแวดล้อมที่ชาวบ้านมีวิถีชีวิตในการหาของกินทางทะเล ไม่สามารถใช้สมบัติทางทะเลได้เหมือนเดิม เป็นการฟ้องละเมิดเรื่องสิทธิสิ่งแวดล้อม รวมทั้งขอให้มีการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลที่เสียหายให้จากการประกอบกิจการของบริษัทเรานี้
นายสมชาย กล่าวอีกว่า เหตุเหล่านี้เกิดขึ้นมาซ้ำซากหลายครั้งแล้วตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมาปัญหาเรานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ต้องการจะฟ้องให้เห็นว่าถ้าผู้ประกอบการละเลยในการปฏิบัติหน้าที่อย่างแท้จริง ก็ต้องได้รับบทเรียนในการฟ้องคดีแบบกลุ่ม เพราะผู้เสียหายไม่ใช่มีแค่ 14 รายมีเป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่นคนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและได้รับความเสียหายเพราะฉะนั้นการฟ้องคดีแบบกลุ่มจะสร้างพลังต่อรองกดดันให้กับบริษัทต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของค่าเสียหายที่มีการเรียกร้องให้มีการชดเชยเยียวยาโจทย์ 14 คนเรียกค่าเสียหายคนละ 300,000 บาท รวมทั้งหมด 4,200,000 บาท แต่สมาชิกกลุ่มที่ทราบชื่ออีกประมาณ 800 คน หากมีการเรียกค่าชดเชยเยียวยา คนละ 300,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 240 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ฝากถึงผู้ประกอบการว่า ข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ ท่อที่ใช้สำหรับการขนส่งทางทะเล มีการใช้งานมานาน มีการชำรุดบกพร่อง ซึ่งตรงนี้เป็นความรับผิดชอบของบริษัทผู้ประกอบการจะต้องมีความระมัดระวังในการประกอบกิจการ ไม่ใช่ว่าพอเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วแก้ปัญหาเป็นครั้งๆไป กรณีนี้จะเห็นได้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกระทบกับคน ทั้งจังหวัด ที่ใช้ประโยชน์จากทางทะเลฉะนั้น นอกจากฟ้องบริษัทที่ประกอบการแล้ว ยังฟ้องตัวกรรมการบริษัทซึ่งมีอำนาจในการกำกับดูแล ให้ต้องรับผิดชอบร่วมกับบริษัท ในการละเมิดครั้งนี้ ด้วย
ด้าน นายละม่อม บุญยงค์ ประธานองค์กรประมงท้องถิ่นปากน้ำบ้านเรา ตัวแทนของชาวบ้าน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุชาวบ้านได้รับผลกระทบ เพราะสัตว์น้ำที่เคยทำประมงได้หายไป ชาวประมงยังคิดอยู่ว่า ผลกระทบในครั้งนี้อีกกี่ปีถึงจะได้รับการแก้ไข และสัตว์น้ำถึงจะกลับมา ชาวบ้านที่เคยทำอาชีพประมงจับสัตว์น้ำก็ไม่สามารถทำมาหากินได้ ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน และก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุน้ำมันรั่วเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน หรือ ประมาณ ปี 2556 คดียังอยู่ระหว่างชั้นฎีกา แล้วคดีที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2565 ไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ เพราะชาวบ้านต้องมาฟ้องคดีเองรัฐบาลไม่เคยช่วยเหลือ จึงอยากให้รัฐบาลชุดใหม่ มาช่วยเหลือ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบด้วย
ทั้งนี้ ศาลแพ่ง รับสำนวนเป็นคดีหมายเลขดำที่ 2/2567 และนัดไต่สวนคำร้องคดีแบบกลุ่มวันที่ 17 พ.ค.2567 เวลา 09.00 น.