xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ทาง 2 แพร่ง ‘ก้าวไกล’ ปรับตัวเพื่ออยู่รอด ลุยไฟสู่ลานประหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 26 มีนาคม 2567 ตอน



แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะยังไม่มีคำสั่งรับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อขอให้ยุบพรรคก้าวไกล แต่ดูเหมือนว่าพรรคก้าวไกลจะเลิกหลอกตัวเองและเริ่มยอมรับสภาพแล้วว่า มีความเป็นไปได้สูงที่พรรคจะโดนยุบพรรคค่อนข้างแน่นอน

ซึ่งเป็นผลมาจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ที่ให้พรรคก้าวไกลยุติการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการรณรงค์ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พร้อมกับประทับตราบนหน้าผากของพรรคก้าวไกลว่าเป็นพรรคการเมืองที่ล้มล้างการปกครอง

ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พรรคก้าวไกลยอมรับความเป็นจริง คือ ท่าทีที่แสดงออกมาจาก 'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' ประธานคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งมีประสบการณ์การถูกยุบพรรคมาก่อน โดยมีรายงานออกมาว่าระหว่างที่ธนาธร ทำภารกิจที่อาคารอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นสำนักงานของคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกล ได้พบกับส.ส.ของพรรคก้าวไกล และระบุว่า

พรรคก้าวไกลมีแนวโน้มว่าจะถูกยุบพรรค และขอให้ไปทำงานร่วมกับพรรคใหม่ที่รองรับไว้ เพื่อให้ส.ส.มีโอกาสทำงานช่วยเหลือประชาชนต่อไป

สิ่งที่ 'ธนาธร' สนทนากับส.ส.ของพรรคก้าวไกลตามรายงานข่าวที่ปรากฎออกมานั้นมองในมุมหนึ่งถือว่าเป็นการมองโลกตามความเป็นจริงของผู้นำทางจิตวิญญาณอย่างอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากในคดีแรกศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยชัดเจนตรงประเด็นแล้วว่าการกระทำของพรรคก้าวไกลเป็นการล้มล้างการปกครอง เพียงแต่เวลานั้นศาลรัฐธรรมนูญไม่อาจมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกลได้ เพราะผู้ร้องในคดีดังกล่าวไม่ได้เป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง

แตกต่างจากกรณีปัจจุบันที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้นำเอาคำวินิจฉัยในคดีแรกมาเป็นสารตั้งต้นและยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงตามมาตรา 92 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ที่กำหนดให้กกต.เป็นผู้มีสิทธิยื่นคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองที่กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

จึงเท่ากับว่าหากคำวินิจฉัยในคดีที่สองไม่ผิดแผกไปจากคดีแรก จนนำมาสู่การยุบพรรคก็คงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด

ดังนั้น เวลานี้พรรคก้าวไกลกำลังเดินมาสู่ทางแยกที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ ประกอบด้วย 1. ส.ส.จำนวน 5 คน ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคระหว่างกระทำการดังกล่าว จะลาออกหรือไม่ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อในลำดับถัดไปอีก 5 คน ขึ้นมาทำหน้าที่แทน

เพราะหากปล่อยให้คาราคาซังต่อไปและพรรคถูกยุบขึ้นมา เท่ากับว่าบัญชีรายชื่อผู้สมัครส.ส.ดังกล่าวจะสลายหายไปด้วย ทำให้ส.ส.หายไป 5 คนแบบฟรี ๆ มิหนำซ้ำพรรคก้าวไกลอาจต้องเผชิญกับงูเห่าเพิ่มอีกไม่รู้เท่าไหร่
ซึ่งยิ่งจะกดตัวเลขส.ส.เลือดส้มให้ลดลงไปอีก

2.เลือกที่จะใจดีสู้เสือต่อไป เดินหน้าทุกอย่างตามกระบวนการ โดยส.ส.กลุ่มดังกล่าวไม่ต้องลาออก เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้ฐานเสียงตัวเองเห็นว่าไม่ยอมก้มหัวให้กับผู้มีอำนาจ ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาฐานเสียงของตัวเองเอาไว้ โดยยอมแลกกับการที่จะต้องเสียส.ส.5 คน แลกกับคะแนนทางการเมืองที่อาจได้มาเพิ่มเติมสำหรับการเลือกตั้งในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นไปในนามพรรคก้าวใหม่หรือไม่ก็ตาม

พรรคก้าวไกลในนามของคนรุ่นใหม่ เคยมีบทเรียนมาแล้วจากความใจร้อน จนทำให้ตัวเองพลาดการเป็นรัฐบาล มาตอนนี้ถ้าตัดสินใจพลาดไป อาจไม่มีเหลือ

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น