รรท.ผบ.ตร. รุดเยี่ยมตำรวจหญิงประสบอุบัติเหตุจากการฝึก โพสต์อำลาหดหู่ สั่งเร่งตรวจสอบทุกมิติ เผย เจ้าตัวอาการดีขึ้น ยังอยากเป็นตำรวจ
วันนี้ (25 มี.ค.) ที่ รพ.ตำรวจ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมอาการตำรวจหญิง เรื่องของหลักสูตรอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ว่า น้องเริ่มสมัครเป็นตำรวจในหลักสูตรใด ระยะเวลาเท่าไร และล่าสุด ฝึกหลักสูตรอะไร แต่ทราบเพียงว่าเป็นการฝึกกองร้อยน้ำหวาน โดยตำรวจตระเวนชายแดนเป็นผู้อำนวยการฝึก
ส่วนระหว่างการฝึกในหลักสูตรมีแนวทางการฝึกอย่างไร เนื่องจากว่าเจ้าตัวมีการโพสต์ถึงหลักสูตรในการฝึกที่ถูกกระทำ (ก็คือเตะเข้าที่หัวจนสมองบวม เลือดออกในสมอง) ยืนยันว่า ไม่ได้มีหลักสูตรเช่นนี้ และได้พูดคุยกับแม่ของตำรวจหญิงแล้ว พบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุจริงในระหว่างที่ฝึก จู่ๆ หัวไปโดนเท้าของเพื่อน
ส่วนก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า น้องพยายามบอกเล่าเรื่องราวให้สังคมรับทราบว่าถูกกระทำ แล้วถูกกีดกันจากผู้บังคับบัญชา ไม่ให้เผยแพร่เรื่องราว นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนเองยังไม่ได้รับทราบ และจะต้องมีการสั่งตรวจสอบ โดยเฉพาะประเด็นใดที่ผู้บังคับบัญชาใช้คำพูดลักษณะไม่เหมาะสมกับผู้ใต้บังคับบัญชา และอะไรที่ไม่ถูกต้องจากผู้บังคับบัญชา จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วน บช.น. มีกองบังคับการศูนย์ฝึกอบรม แต่ต้องมีการส่งไปฝึกที่อื่นในลักษณะนี้ด้วยหรือไม่ ต้องขอตรวจสอบก่อนว่าหลักปฏิบัติเหมาะสมหรือไม่ หากมีอะไรไม่เหมาะสมจะมีการแก้ไขในอนาคต
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาในการฝึกในห้วงเวลานั้น ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เรื่องที่เกิดมาตั้งแต่ 2566 เพิ่งมาเกิดเรื่องในตอนนี้นั้น ไม่อยากตอกย้ำในความรู้สึกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำอีก โดยมีการสัญญากับน้องตำรวจหญิงว่า หลังจากการรักษาตัว ขอให้ไปรายงานตัว ด้วยตัวเองกับ รรท.ผบ.ตร. ซึ่งตนจะรอวันนั้น
“ส่วนอาการของน้องตำรวจหญิงเบื้องต้นทรงตัวดีสามารถสื่อสารได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสในบางช่วง แต่เมื่อพูดถึงประเด็นให้ไปรายงานตัวตำรวจหญิงยิ้มรับ ซึ่งมั่นใจว่า จากการพูดคุยน้องยังคงอยากเป็นตำรวจอยู่ แต่ขณะนี้รู้สึกเหนื่อยและเบื่อหน่าย แต่ก็ต้องประคับประคองกันไป ผมทราบเรื่องจึงรีบเดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจน้อง” รรท.ผบ.ตร.
ส่วนอาการซึมเศร้าเป็นก่อนหรือหลังการรับข้าราชการตำรวจ รรท.ผบ.ตร. ระบุว่า ต้องขอตรวจสอบก่อน แต่ตนเองได้พูดคุยกับน้องว่าอยากให้สู้และกลับมาเข้มแข็งด้วยตัวเอง โดยไม่พึ่งยารักษาซึ่งตัวน้องได้สัญญากับตนเองว่าจะดูแลตัวเอง จะดูแลแม่และจะดูแลยาย ทั้งนี้ อยากฝากสื่อมวลชนอย่านำข้อความภายในจดหมายไปเผยแพร่เพื่อตอกย้ำความรู้สึกของน้อง เพราะกังวลว่าความคิดน้องจะถอยหลังกลับ เพราะขณะนี้น้องกำลังใจกำลังดีขึ้นและกำลังเดินหน้าเพื่อรักษาตัวเอง