xs
xsm
sm
md
lg

“แอนนา” รับทราบข้อหาฉ้อโกง คดีกล่องสุ่มทิพย์ ยันไม่มีเจตนาโกง ยอมรับบริหารผิดพลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“แอนนา” เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 รับทราบข้อหาฉ้อโกง คดีกล่องสุ่มทิพย์ เสียหายกว่า 111 ล้านบาท ยันไม่มีเจตนาจะโกง ยอมรับบริหารผิดพลาด ทองราคาพุ่ง ทำให้ขาดสภาพคล่อง



วันนี้ (21 มี.ค.) ที่ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) นายวรินทร วัตรสังข์ หรือ แอนนา ทีวีพูล อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 เพื่อรายงานตัวในคดีจากการทำธุรกิจกล่องสุ่มทิพย์ที่มีผู้เสียหายรวม 119 ราย ความเสียหายกว่า 111 ล้านบาท ก่อนจะนำตัวพร้อมสำนวนกว่า 6,000 แผ่น ส่งพนักงานอัยการสำนักงานอัยการคดีอาญาสั่งฟ้องคดี ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน

แอนนา กล่าวว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีลูกค้ากว่า 60,000 คน และได้ขายสินค้าหลายประเภท ทั้งอาหารเสริม ครีมทาผิว คอลลาเจน ทอง ฯลฯ เนื่องจากไม่ได้ทำบัญชีและวางระบบหลังบ้านให้ชัดเจน เมื่อลูกค้าขอเงินคืนจำนวนมาก จึงเกิดปัญหาสะดุดในช่วงหนึ่ง วันนี้จึงมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อจะไปชี้แจงกับอัยการ ว่า ทำไมลูกค้าถึงไม่ได้รับสินค้า ซึ่งเหตุผลมีอยู่ในสำนวนคดี ที่ผ่านมา ตัวเองสิ้นหวังและคิดว่าจะต้องติดคุก แต่มีบางคดีที่ผู้เสียหาย 10 กว่าคน ได้ดำเนินการฟ้องศาลเอง และศาลยกฟ้องไป 2 คดี เพราะศาลมองว่าเป็นเรื่องของทางแพ่ง จึงรู้สึกว่ามีทางสู้และมีทางรอด เพราะเจตนาต้องการคืนเงินให้ทุกคน ไม่อยากเอาเงินของใครก็ตาม แต่ตนไม่สามารถคืนเงินได้ในทันที ปีที่ผ่านมา ไม่อยากเจอใคร ชีวิตแย่ จนช่วงมกราคมที่ผ่านมา มีแนวทางว่าเราสามารถหาเงินคืนให้ผู้เสียหายได้ และอาจจะจบคดีได้ด้วยดี ถ้าหาเงินคืนผู้เสียหายได้หมด

ทั้งนี้ เรามีโอกาสกลับตัวกลับใจในสังคม จึงกลับมาทำงานมากขึ้น แม้จะมีผู้เสียหายหลายคนทักไปที่นายจ้างว่าทำไมถึงให้โอกาสคนแบบนี้ ตนเองไม่มีเจตนาที่จะเป็นคนไม่ดีและคดโกง ปัจจุบันพยายามดิ้นรนหางานทำทุกทาง เพื่อจะได้มีเงินมาคืนผู้เสียหาย ถ้าตนมีเจตนาที่ไม่ดี หรือมีเจตนาจะฉ้อโกง จะไม่มีการแจกรางวัล จัดโปรโมชัน และพาลูกค้าไปเที่ยว ในขณะนั้นตนได้ใช้เงินลงทุน 700 ล้านบาท ไปซื้อทองคำ 500 ล้านบาท และลงทุนกับสินค้าอื่นอีก 200 ล้านบาท แต่เนื่องจากบริหารผิดพลาด ประกอบกับช่วงเวลานั้น ราคาทองคำได้ขึ้นราคาจากบาทละ 27,000 บาท เป็น 34,000 บาท จึงทำให้ขาดสภาพคล่อง จนเกิดปัญหาในการทำธุรกิจขึ้น

แอนนา ขอชี้แจงว่า การแจกทองเป็นการจัดโปรโมชัน และธุรกิจจะไม่สะดุดล้ม หากมีการจัดทำบัญชีเป็นอย่างดี โดยแต่ละเดือนมีการสั่งสินค้าต่างๆ รวมกันแล้ว 30,000-50,000 ออเดอร์ จึงทำให้ส่งสินค้าไม่ทัน มีการกำหนดระยะเวลาในการส่งสินค้า 2-3 เดือน เพราะมีคนทำงาน 5 คน และยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาจะโกงลูกค้า เพราะถ้าคิดจะโกงตั้งแต่แรก ก็คงหอบเงินหลบหนีไปตั้งแต่ที่เกิดเรื่องแล้ว ซึ่งตนเองมีความพยายามที่จะคืนเงินลูกค้า แต่ไม่สามารถคืนให้ได้ครบทุกคน การดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน จึงรุนแรงเกินไป เรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลต่อสภาพจิตใจเป็นอย่างมาก เกิดความเครียดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพราะถูกทวงหนี้ และขู่ฆ่า

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 กล่าวว่า พนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดแอนนาได้ แต่ด้วยคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานนานพอสมควร ซึ่งจากนี้จะเป็นขั้นตอนของทางพนักงานอัยการที่จะพิจารณาสั่งฟ้อง

สำหรับเรื่องราวดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจ บก.สอท.1 ว่า ถูก แอนนา หลอกขายกล่องสุ่มทองคำทิพย์ จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา ฉ้อโกงประชาชน และนำข้อมูลอันเป็นเท็จ หลอกลวง สู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14(1)
กำลังโหลดความคิดเห็น