xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ หัวโต๊ะปลุกความสามัคคีในองค์กรตำรวจ ชี้ ความขัดแย้งจบแล้ว ขอให้โฟกัสที่การทำงานเพื่อ ปชช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



นายกฯ มอบนโยบายตำรวจ ปลุกความสามัคคีในองค์กร เดินหน้าทำตามนโยบายเพื่อประชาชน ชี้ ความขัดแย้งจบแล้ว ขอให้กลับมาโฟกัสที่การทำงาน เชื่อขั้นตอนตรวจสอบ 2 บิ๊กตำรวจเป็นธรรม มีกรอบเวลาชัด

วันนี้ (21 มี.ค.) เมื่อเวลา 07.45 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการมอบนโยบายให้กับตำรวจระดับผู้บัญชาการทั่วประเทศ โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้การต้อนรับ


สำหรับการประชุมในวันนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่วานนี้ (20 มี.ค.) นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 14 และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ไปปฏิบัติหน้าที่ในสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีมูลเหตุมาจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้แต่งตั้งให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ รักษาราชการแทน

โดยในที่ประชุมนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำในเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ว่า พวกเราทุกคนมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบไม่ใช่ว่าเป็นความรับผิดชอบของทหาร หรือหน่วยชายแดน ส่วนเรื่องการปราบปรามหนี้นอกระบบ ขณะนี้ยังพบว่ามีการปล่อยให้มีการกู้ยืมเงินที่ไม่เป็นธรรมต่อประชาชน เป็นเรื่องที่ตนยังไม่เห็นว่าเรื่องนี้ที่เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลถูกบริหารจัดการได้ดีพอ การเข้าสู่ขั้นตอนประนอมหนี้เจ้าหนี้ลูกหนี้ยังเข้าร่วมน้อย และประเด็นที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องผู้มีอิทธิพล ทำให้ประชาชนไม่อยากเข้าสู่ขั้นตอนการประนีประนอมหนี้ ฉะนั้น ขอให้กำชับผู้บังคับการจังหวัดทุกคนให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นได้สำเร็จ ต้องประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงอื่นๆ ด้วย


นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า การปราบปรามสินค้าเถื่อน หนีภาษี การลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายจากชายแดน รัฐบาลให้ความสำคัญมากกับเรื่องนี้ ฉะนั้น ขอให้ทุกท่านพิจารณาเรื่องราคายางที่ปรับดีขึ้นมาได้ เป็นตัวอย่าง เพราะเรื่องดังกล่าวเกิดการบูรณาการร่วมกันของหลายหน่วยงาน รวมถึงการปราบปรามบ่อนการพนัน ขอให้เจ้าหน้าที่ยึดตามกฎหมายเป็นหลัก บ่อนพนันอย่าให้มีเกิดขึ้น การปราบปรามในส่วนพนันออนไลน์เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนให้ความสำคัญมาก ใครที่ดูแลเรื่องนี้ขอให้เคร่งครัด

“ด้านอาวุธเถื่อน อาวุธสงคราม อาวุธปืนเป็นเรื่องที่ต้องมีการจัดการอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับเรื่องเผาป่า การควบคุมค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ฝ่ายความมั่นคงอย่าง ตำรวจจะต้องช่วยกันทำงานร่วมกันบูรณาการทุกภาคส่วน จากที่ผ่านมา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้ทำไปแล้วคือเริ่มจับกุมคนเผาป่าและมีรางวัลให้เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ดี ตนเชื่อว่า พวกท่านมีอำนาจน่าจะออกกฎเฉพาะกิจในพื้นที่นั้นๆ ไม่ให้เกิดการเผาป่าได้” นายเศรษฐา กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายท่องเที่ยวการดูแลนักท่องเที่ยวต้องเน้นย้ำ เพราะโยบายของรัฐบาลผลักดันให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว เรื่องของการคัดกรองบุคคล เรื่องต่างๆ เหล่านี้ตนถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ รวมไปถึงผู้นำท่องเที่ยว หรือไกด์ การทำธุรกิจที่ไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ทุกท่านที่อยู่ในพื้นที่รู้อยู่แล้วว่าใครเป็นอะไร ใครทำอะไรอยู่ เพราะฉะนั้นขอให้มีการกำชับการทำงานอย่างเร่งด่วน แต่ขอให้อย่าละเลยเรื่องการดูแลสวัสดิการของข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย ที่ตนขอคำตอบไป ว่าจะจัดการอย่างไรเรื่องนี้ ขอให้รักษาการ ผบ.ตร.เดินหน้าโดยเร็ว และประเด็นสุดท้าย ขอให้พวกเรากันเอง มีความสามัคคี ทุกคนก็เป็นคน มีการรักชอบใคร วันนี้ผมเชื่อว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าใจถึงปัญหาเรื่องนี้กันดีที่มันเกิดขึ้น เรื่องการสามัคคีเลือกข้างใครเป็นลูกน้องใคร ตนเชื่อว่า เราเก็บความรักไว้ในใจตัวเองดีกว่า วันนี้ให้เอาประชาชนเป็นที่ตั้งดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด

“ส่วนเรื่องคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์เมื่อวานนี้ขอให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเรามีคณะกรรมการแล้ว 3 ท่าน หลังจากที่มีผลสรุปแล้ว ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะตัวของผมเองก็ยืนยันไม่ได้ฝักใฝ่ข้างใด เราอยู่ตรงนี้เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน ถ้าเราอยู่ตรงนี้ได้เราก็ดูแลพี่น้องต่อไปได้ องค์กรตำรวจก็ได้ทำงานได้อย่างสมศักดิ์ศรี” นายเศรษฐา กล่าว


ต่อมา นายเศรษฐา กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ในทุกหัวข้อที่เข้าประชุมตนได้เน้นย้ำทุกเรื่องให้ความสำคัญเท่ากัน เพราะประชาชนได้รับปัญหา ตนได้ย้ำว่า เรามาอยู่ตรงนี้ เรามาอยู่เพื่อพี่น้องประชาชนเรื่องที่จะไปก้าวก่ายใคร ไม่อยากให้มีเกิดขึ้นอีกแล้ว เราไม่ได้มีหน้าที่ให้ข่าวเพื่อสนับสนุนคนใดคนหนึ่งเรามีหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชน ทุกอย่างเรายึดตามกระบวนการยุติธรรมกระบวนการกฎหมาย ซึ่งขอยืนยันว่าขณะนี้ทั้ง 2 ท่านยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ในขั้นตอนมีกรอบระยะเวลาตรวจสอบ ซึ่งตนก็มองว่าต้องเกิดขึ้นและสิ้นสุดให้เร็วที่สุด

เมื่อถามว่า จะเกิดแรงกระเพื่อมใต้น้ำหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ถามต่อว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีไม่ตอบคำถามนี้ และกล่าวต่อว่า ตนมีหน้าที่รับปัญหามาก็ต้องบริหารจัดการกันไป ตนว่าวันนี้เรื่องนี้เราจบกันได้ และเราเดินหน้าดีกว่า ดูแลปัญหาเรื่องยาเสพติด เรื่องพนันออนไลน์ เรื่องขโมย ทั้ง 2 ท่านที่มีปัญหาก็ไปอยู่สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ขออย่าไปกดดัน อย่าชี้นำ ให้ปล่อยเวลากระบวนการยุติธรรมทำงาน ตัวท่าน รักษาการ ผบ.ตร. ก็มีหน้าที่ที่ต้องดูแลพี่น้องประชาชน ฉะนั้นเราต้องกลับมาดูว่ายืนอยู่ตรงนี้เรายืนอยู่เพื่อใคร เรื่องดราม่าต่างๆ จบไปแล้ว น่าจะปราศจากการแทรกแซง ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะถ้าเรามัวแต่ยุ่งแต่เรื่องนี้ประชาชนก็จะเดือดร้อน ทุกท่านจะไม่โฟกัสเรื่องการทำงาน ตนได้พูดคุยกับผู้รักษาการแล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง นโยบายที่รับมอบหมายนี้ให้ลงแต่ละหน่วยงาน

เมื่อถามว่า การลงนามโยกย้าย 2 นายพลเป็นเรื่องลำบากใจหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากใจ ไม่สบายใจ แต่จำเป็นต้องทำเพื่อจะให้เกิดความกระจ่างกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อสังคม ขณะนี้ยังไม่มีการแบ่งงาน เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและตนมีภารกิจจำนวนมาก แต่คาดว่าวันนี้จะได้มีการพูดคุยกัน


เมื่อถามต่อว่า เหตุการณ์การตรวจสอบที่เกิดขึ้นในอดีตเคยมีการใช้คณะกรรมการจากภายนอกตั้งขึ้นมาสอบสวนแต่สุดท้ายเรื่องก็ยืดเยื้อและต้องกลับมาใช้คำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คาดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเช่นเดียวกันหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำถามถูกต้องแล้ว เรื่องนั้นเป็นอดีต แต่ตอนนี้เป็นปัจจุบัน ผู้นำคนละคนกัน

มีรายงานว่า ก่อนหน้าที่สื่อมวลชนจะได้เข้าไปร่วมรับฟังนโยบายในการแถลงวันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้พูดในที่ประชุมว่าหลังจากนี้การมอบหมายนโยบายและการแถลงข่าวที่สำคัญขอให้สื่อมวลชนเข้ามาติดตามได้ ซึ่งที่ผ่านมาตนเองได้ย้ำให้สื่อมวลชนเข้าร่วมฟังในการแถลงมา 3 ครั้งแล้วแต่ไม่มีใครปฏิบัติตาม ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเชิญสื่อมวลชนทั้งหมดขึ้นมารับฟังการแถลงนโยบายในห้องประชุมจนจบ


กำลังโหลดความคิดเห็น