“บิ๊กโจ๊ก” น้อมรับคำสั่งนายกฯ ยังไม่ทราบมูลเหตุโยกย้าย แต่ไม่กังวล ยืนยันพร้อมปฏิบัติหน้าที่ทุกสถานการณ์
วันนี้ (20 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งให้ตนเอง และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นเวลา 60 วันนั้น ได้รับทราบคำสั่งดังกล่าวแล้ว และคาดว่าเป็นเรื่องจริง เนื่องจากเห็นกระแสข่าวจากหลายแห่ง และทราบว่าโฆษกรัฐบาลได้แถลงข่าวถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตามตนเองยังไม่เห็นเนื้อหาว่าให้ไปปฏิบัติหน้าที่อะไร คาดว่าจะมีความชัดเจนในเย็นวันนี้ แต่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาเมื่อผู้บังคับบัญชามีคำสั่งมาก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่ และหากหนังสือคำสั่งดังกล่าวมีผลทันที วันพรุ่งนี้ตนเองและผบ.ตร. ก็ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมกับนายกรัฐมนตรีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ เนื่องจากถือว่าต้องไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกฯ แล้ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับมูลเหตุคำสั่งย้ายในครั้งนี้ ตนเองยังไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลใด ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง แต่จะเกิดจากความขัดแย้งระหว่างตนเองกับผบ.ตร.หรือไม่นั้นก็ไม่ยืนยัน เนื่องจากการประชุมร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรี ผบ.ตร. และตนเอง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ไม่เห็นสัญญาณบ่งชี้ใดๆ นายกรัฐมนตรีกำชับเพียงเรื่องการทำงานอย่างเดียว ขณะที่การพูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อคืนวานนี้ (19 มี.ค.) ก็เป็นไปโดยปกติ ส่วนการสั่งย้ายคู่จะเป็นการมองว่าเป็นคู่ขัดแย้งหรือไม่นั้น วันนี้ผบ.ตร.ก็ได้แถลงแล้ว และตั้งแต่มีคำสั่งมาก็ยังไม่ได้คุยกับผบ.ตร. เพราะประชุมมาโดยตลอด
"ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี แต่จะได้กลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา ส่วนการไปทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่ไม่ล้มเหลว เพราะไปทำงาน และงานก็สำเร็จเรียบร้อยด้วยดี และยืนยันอีกว่าไม่รู้สึกโดดเดี่ยว เพราะเคยไปมาแล้ว และแม้ว่าอยู่ที่ไหนผมก็ต้องตั้งใจทำงาน ผมไม่กังวลใจ ไม่เป็นไร พร้อมทุกสถานการณ์"รอง ผบ.ตร. กล่าว
ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่าตามฉายาแมวเก้าชีวิตนั้น ตอนนี้เหลือกี่ชีวิต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เพียงแต่หัวเราะและตอบว่า “ไม่หรอกครับ”