ผบ.ตร.เผยกรณีทีมทนายของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างมีตำรวจเกี่ยวข้องเส้นทางการเงินเว็บพนัน ถ้ามั่นใจก็ ขอระบุชื่อมาได้เลย การกล่าวอ้างมันเป็นการด้อยค่าในสังคม
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่กองบัญชาการศึกษา (บช.ศ.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีการออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที่ถูกพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ออกหมายจับคดีฟอกเงิน เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน “BNK Master” ว่า ได้รับรายงานแล้วและได้ส่งกลับไปให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตาม ป.วิอาญาได้เลย พยายามทำให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย เราเป็นหัวหน้าหน่วยทำอะไรตรวจสอบได้ ให้ความเป็นธรรมทั้งผู้ถูกร้องและเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน เพราะเป็นคำถามที่พี่น้องประชาชนอยากรู้ ส่วนคดีนี้จะต้องส่งไปยัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า ยังเพราะเป็นความผิดส่วนบุคคลยังไม่ได้พิจารณา
แต่หากสอบสวนแล้วเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐต้องส่งไปยัง ป.ป.ช.หรือไม่นั้น ก็มีโอกาสเช่นกัน และวานนี้เห็นหนังสือที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งมาขอข้อมูล มีหลายหน่วยที่ให้ความสนใจรวมทั้งประชาชนเพราะยอดเงินเสียหายค่อนข้างเยอะ เดี๋ยวขอพิจารณาอีกที แต่ขณะนี้พนักงานสอบสวนต้องดำเนินการก่อน เพราะเพิ่งส่งหนังสือกลับไปประมาณ 2 ทุ่มกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อได้รับหนังสือให้ กมค.มาประมวลพิจารณาหลายขั้นตอน มีความเห็นตรงกัน ตนไม่ได้ตัดสินใจเพียงคนเดียว
ส่วนกรณีที่ทีมทนายของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ชี้แจงไม่มีเส้นเงินเกี่ยวข้องและได้มีการเผยว่า มีตำรวจระดับนายพล “ต” รับเงินจากเว็บพนัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า เส้นทางการเงินเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สามารถตรวจสอบได้หมด เหมือนผู้สื่อข่าวเราโอนเงินแตกไปยังญาติพี่น้องมันก็เป็นเส้นทางการเงิน แต่เส้นทางพวกนี้มีสิ่งไหนที่เกี่ยวกับบัญชีม้าหรือเกี่ยวการทำผิดเกี่ยวกับเว็บพนันหรือความผิดต่างๆที่มันมาเชื่อมโยงที่เราสามารถตรวจสอบได้ ไม่มีทางที่จะแก้ได้
อย่างไรก็ตามตนจะให้ทีมงานรวบรวมข้อมูลเหล่านี้มาจากไหน ผ่านการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจไหม ทำเส้นทางการเงินถูกต้องไหม ถ้าเขาได้ข้อมูลมาอย่างถูกต้องจะต้องส่งคนไปตรวจสอบแล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาตรวจสอบ ถ้ามันเป็นจริงก็บอกแล้วเป็นเส้นทางวิทยาศาสตร์ถ้าตอบได้ก็คือตอบได้
ส่วนกรณีทีมทนายกล่าวอ้างว่า บุคคลเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน แต่พนักงานสอบสวนไม่ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแต่เจาะจงเลือกแจ้งข้อหากับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เราก็จะไปตรวจสอบดูว่า จะดำเนินการอย่างไร เรื่องนี้ตนเองจะต้องสั่งไปตรวจสอบเรื่องข้อร้องเรียนจากทีมทนายของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต้องระบุมาเลยถ้าคิดว่า ผิดจริงมั่นใจก็ระบุมาเลย การกล่าวอ้างเขาเรียกว่าการด้อยค่าทางสังคมซึ่งมันไม่ถูก พูดมาเลยใครผิด เส้นทางการเงินเป็นหลักฐานวิทยาศาสตร์เข้ามากี่เส้นตนก็จะตรวจสอบให้ทั้งหมด
ส่วนกรณี พล.ต.ต.นำเกียรติ 1 ใน 8 ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันมินนี่ระบุว่า พ.ต.อ.”ด”ระบุว่าทำผิดกฎหมายแล้วโอนไปให้ตำรวจหญิง 2 นาย มีความสัมพันธ์กับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ต้องถามกลับว่า “ด”ไหน พล.ต.ต.นำเกียรติ ต้องระบุเลยว่า พ.ต.อ.”ด” เป็นใคร ถ้าคิดว่าพยานหลักฐานชัดเจนก็ว่ามาเลย ใครก็กล่าวอ้างได้ ถ้ามันชัดเจนก็ว่ากันไปเลย ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เราต้องมีการตรวจสอบอยู่แล้ว หากพนักงานสอบสวนเลือกปฏิบัติเฉพาะกลุ่มคนบางกลุ่มแต่อีกกลุ่มกลับนิ่งเฉย เราก็ต้องเรียกพนักงานสอบสวนมาคุยว่า มีอย่างที่เขากล่าวอ้างหรือไม่ต้องตรวจสอบให้หมด
ส่วนเรื่องของจเรตำรวจมีการตรวจสอบคดีรีดเงินเว็บพนัน 140 ล้านบาท มีการรายงานมายังหีือไม่นั้น เรื่องนี้ พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.กำลังสรุปคดีเพราะทำร่วมกับอัยการสัปดาห์นี้น่าจะเสร็จสิ้น
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณี พล.ต.ต.นำเกียรติ ระบุถคงสาเหตุที่ถูกดำเนินคดีเพราะทำคดีรีดเงินเว็บพนัน 140 ล้านบาท และคดีกำนันนก ว่าไม่เกี่ยวข้องกันเลย คดีกำนันนก บช.ก.ทำ ส่วนคดีรีดเงินเว็บพนัน 140 ล้านบาท นั้น ชุดของ พล.ต.ท.อัครเดช เป็นคนทำ หลักฐานชัดเจนไม่เกี่ยวกันเลย เคยบอกแล้วว่าใครผิดก็ว่าไปตามพยานหลักฐานไม่มีการกลั่นแกล้ง ถ้าบอกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมก็สู้กันในกระบวนการยุติธรรมมันมีขั้นตอนอยู่ จะกลั่นแกล้งเพื่ออะไร ยิ่งตนเองเป็น ผบ.ตร.จะไปกลั่นแกล้งเพื่ออะไรไม่มีหรอก ถ้ามีข้อมูลบอกมาเลยพร้อมตรวจสอบ แล้วองค์กรตำรวจจะอยู่อย่างไร เรื่องนี้ก็คิดเหมือน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เอาสมองไปทำอย่างอื่นดีกว่า เรื่องนี้สู้กันด้วยพยานหลักฐานอย่ามาทำให้เป็นปัญหา
“อย่างที่มีการกล่าวว่าเรื่องนี้จะทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแตก องค์กรจะแตกได้อย่างไรองค์กรสืบทอดกันมาต้องดำรงอยู่ แต่การที่จะมายเซ็ตคนของเราตนต้องทำให้เป็นบ้านจะทำอย่างไรเป็นหน้าที่ของตนที่เป็นพ่อบ้าน ตนอาจจะเป็นกระโถนรองรับขยะทุกอย่างต้องใส่มาในกระโถนตนอาจจะเปื้อนบ้างแต่มันกำลังจะให้บ้านสะอาด จะมีอะไรกระแทกมาตนรับหมดเป็นหน้าองค์กรตนแอ่นอกรับ ถ้าตนผิดตนก็แอ่นอกรับ ถ้าตนบริหารราชการไม่ดีตนก็แอ่นอกรับ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าว
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ตนไม่เคยทุกข์เลย เดี๋ยวมันก็ผ่านไป วันนี้เหลือ 195 วัน ในห้องทำงานตนมีเวลานับถอยหลังเป็นวัน ตนทำทุกวันให้มันดีเพื่อองค์กรเพื่อพี่น้องประชาชน ตนกำลังหว่านข้าว หว่านข้าวโพดและต้องได้กินข้าว กินข้าวโพด ตนไม่ได้หว่านไมยราบ ถ้าใครหว่านไมยราบก็รอเหยีบบหนาม นั้นคือสัจธรรม