ตำรวจไซเบอร์จับกุม 2 สาวผู้ต้องหา ทำหน้าที่บัญชีม้าให้แก๊งหลอกส่ง sms แจ้งคืนเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า เหยื่อหลงเชื่อกดลิงก์ กลายเป็นแอปดูดเงิน
วันนี้ (15 มี.ค.) พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 จับกุม น.ส.สุดารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี และ น.ส.ปิยรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นบัญชีม้าและร่วมมือกับกลุ่มขบวนการที่ร่วมกันหลอกส่งข้อความ SMS อ้างข้อมูลเป็นการไฟฟ้า ให้กดลิงก์ขอรับค่าประกันค่ามิเตอร์ แต่กลับพบว่าเป็นแอปพลิเคชันดูดเงิน
โดยพฤติการณ์สืบเนื่องจากมีคนร้ายส่งข้อความ SMS ไปยังผู้เสียหาย โดยแจ้งว่า สามารถขอรับค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าคืนได้ และมีลิงก์ส่งมาพร้อมข้อความดังกล่าว ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อกดรับลิงก์ เมื่อเข้าไปจะมีวิดีโอคลิปที่ผู้บริหารพูดเรื่องการคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้า และมีข้อความบอกว่า จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
ต่อมาจะมีคนร้ายโทรผ่านไลน์มาบอกวิธีการและขอบัตรประชาชน พร้อมแจ้งว่า การขอคืนเงินค่าประกันจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันการไฟฟ้า และกรอกข้อมูลเลขบัญชีพร้อมเพย์ ในระหว่างนั้น คนร้ายก็จะชวนคุยถ่วงเวลา รวมทั้งมีการขอเลขบัญชีธนาคารอื่น และให้ทดลองโอนเงินไปยังบัญชีผู้เสียหาย ซึ่งคนร้ายอ้างว่าเกิดปัญหาที่ไม่สามารถโอนเงินค่าประกันมิเตอร์คืนให้ได้ จะต้องทำให้บัญชีผู้เสียหายให้เหลือเงิน 0 บาท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ทำการโอนเงินตามที่คนร้ายแนะนำ
จากนั้นได้มีข้อความแจ้งเตือนเงินออกจากบัญชีธนาคาร จึงได้ตรวจสอบพบว่า มีการโอนเงินออกไป จำนวน 2 บัญชี ถูกโอนเข้าบัญชีคนร้าย จำนวน 6 บัญชี รวมโอนทั้งหมดจำนวน 7 ครั้ง ทำให้ได้รับความเสียหาย เป็นจำนวนเงิน 1,682,139 บาท ซึ่งขณะนี้พบมีผู้เสียหายทั่วประเทศส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ
เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย ร่วมกันโดยทุจริตหรือ โดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ร่วมกันใช้บัตร อิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช่เพื่อคนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้
นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบหมายจับอีก 1 หมาย ของศาลจังหวัดภูเก็ต ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป