รอง ผบช.น.เผย พนักงานสอบสวนออกหมายจับผู้ต้องหาก่อเหตุยิงหน้าร้านเหล้า ย่านปิ่นเกล้า เสียชีวิต 1 บาดเจ็บอีก 2 สาเหตุเขม่นกันเรื่องผู้หญิง อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว
วันนี้ (15 มี.ค.) ที่ สน.พระราชวัง พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าคดีกลุ่มวัยรุ่นยิงกันหน้าร้านอาหารกึ่งผับ ย่านปิ่นเกล้า มีผู้เสียชีวิต 1 คน ได้รับบาดเจ็บ อีก 2 คน ว่า จากการสืบสวนพบว่าวันเกิดเหตุ กลุ่มผู้ก่อเหตุมามาที่ร้านดังกล่าวกับกลุ่มผู้หญิง แต่นั่งแยกกันคนกันละโต๊ะ ส่วนกลุ่มผู้เสียชีวิตมากับเพื่อนรวมกัน 3 คนนั่งดื่มกันภายในร้านดังกล่าวเช่นกัน โดยระหว่างที่นั่งดื่ม ผู้เสียชีวิตมีการยกแก้วทำทีจะขอชนกับผู้หญิงที่มากับกลุ่มผู้ก่อเหตุ และมีการเขม่นกัน มีปากเสียงทะเลาะกัน จนการ์ดของร้านมาห้ามและแยก จนจะกลับบ้าน ทั้ง 2 กลุ่มก็ยังมาทะเลาะกันด้านนอกของร้าน ผู้ก่อเหตุจึงไปหยิบอาวุธปืนที่อยู่ในรถยนต์กลับมายิงจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากนั้นผู้ก่อเหตุไปขึ้นรถเบนซ์หลบหนีไปพร้อมกับเพื่อนอีก 2 โดยผู้ก่อเหตุกลับบ้านไปและให้เพื่อนขับรถเบนซ์วนไปวนมา ก่อนจะไปจอดไว้ที่บ้านพ่อตาของกลุ่มเพื่อนที่จังหวัดสมุทรสงคราม
พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยอีกว่า ทางพนักงานสอบสวนออกหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ จ.154/2567 ลงวันที่ 14 มี.ค.67 ผู้ก่อเหตุนายอธิภัทร ธรรมบุตร อายุ 23 ปี ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น,ครอบครองปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาปืนติดตัว โดยไม่ได้รับอนุญาต ตรวจสอบประวัติ พบว่ามีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดปี67 อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีการออกหมายจับไว้หรือยัง หรือมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้วหรือไม่ และพบประวัติเกี่ยวกับพ.ร.บ.อาวุธปืน ที่สน.บางขุนเทียนเมื่อปี 2566
ทั้งนี้ตำรวจคุมตัวเพื่อนที่พาผู้ต้องหาหลบหนี มาเพื่อสอบปากคำ รวมถึงสอบปากคำพยานแวดล้อมและหญิงสาวที่ร่วมวงชนแก้วกับผู้ต้องหาในคืนที่เกิดเหตุแล้ว รวมถึงจะตรวจสอบรถยนต์ที่ใช้ในการหลบหนีอีกด้วยเนื่องจากมีการดัดแปลงสภาพรถ
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.กำชับไปยัง ผกก.สน.บางยี่ขัน ให้ตรวจสอบร้านดังกล่าวพบว่าไม่มีใบอนุญาตและมีการจำหน่ายสุราเกินเวลาที่กำหนดจึงสั่งให้ดำเนินคดีกับร้านดังกล่าวแล้ว และฝากเตือนไปยัง บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนีพักพิงว่าจะถูกดำเนินคดีจนถึงที่สุดและหากพบตัวก็ขอให้แจ้งตำรวจ
นอกจากนี้มีรายงานว่า จากการตรวจสอบทราบว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาหลบหนีออกจากพื้นที่กรุงเทพฯ ไปยังพื้นที่ย่านปริมณฑล ซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี