ตร.เมืองกรุง รวบแก๊งล้วงกระเป๋าชาวเวียดนาม ตระเวนก่อเหตุ นักท่องเที่ยวใน กทม.

ตำรวจนครบาล จับแก๊งเวียดนาม พกเครื่องรูดบัตร ตระเวนล้วงกระเป๋า ขโมยบัตรเครดิต นทท.ต่างชาติ

ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้กำชับให้สืบสวนจับกุมเหตุเกี่ยวกับทรัพย์ล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร นำโดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. สั่งการ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องวางมาตรการป้องกัน โดยบูรณาการกำลัง 7 หน่วยงาน บช.น,. บก.สปพ., บช.สตม. และ บช.ทท. ปฏิบัติการปะปนกับนักท่องเที่ยวในการ
เฝ้าระวังเหตุกลุ่มมิจฉาชีพก่อเหตุล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวใน สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระราชวัง ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายเป็นหญิงสัญชาติมาเลเซีย เป็นนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเที่ยวภายในวัดพระเชตุพนฯ ขณะที่อยู่ภายในวัดรู้สึกว่ามีคนร้ายมาเบียดด้านหลังของตน จากนั้นจึงได้ตรวจสอบกระเป๋าสะพายของตนเอง พบว่า กระเป๋าเงินที่อยู่ภายในกระเป๋าสะพายข้างของตนนั้นได้หายไป ซึ่งมีทรัพย์สิน เป็นเงินไทยจำนวน 6,000 บาท และ บัตรเครดิต 4 ใบ

ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง จนทราบรูปร่างหน้าตา ตำหนิรูปพรรณ บุกรวบชาวเวียดนาม 3 คน คาร้านหมูกระทะ ย่านดินแดง กรุงเทพมหานคร หลังสืบสวนจนทราบแหล่งกบดาน จึงได้ดำเนินการเข้าจับกุม เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งสามารถจับกุมชาวเวียดนาม ที่กระทำผิดตระเวนลักทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตามหมายจับได้ทั้งหมด 3 ราย คือ Ms.Vo Thi Anh TuYet (นาง หว๋อ ถี่ อั๋น เตี๊ยก) อายุ 59 ปี / MS.Nong Thi Chi (นาง นำ ถี่ จี) อายุ 47 ปี/ Mr.Nguyen Huu Van (นาย เหงียน ฮิ๊ว เวิน) อายุ 53 ปี ซึ่งทั้งสามคนกระทำความผิดในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์

โดยผู้ก่อเหตุมักจะเดินทางไปก่อเหตุตามสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย อย่างวัดพระแก้ว และ วัดโพธิ์ และเลือกเหยื่อเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งผู้ที่ก่อเหตุมีพฤติการณ์การก่อเหตุด้วยการเดินเบียดด้านหลังของเหยื่อ และอาศัยช่วงชุลมุน ในการล้วงกระเป๋า เพื่อหยิบเอาเงินสดและบัตรเครดิตที่อยู่ในกระเป๋า และเนื่องจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้เปลี่ยนไป คือ ไม่พกเงินสด กลุ่มผู้ก่อเหตุที่เป็นชาวเวียดนามนี้ จึงเลือกใช้วิธีขโมยบัตรเครดิตแล้วนำไปรูดที่เครื่องรูดบัตรทันที เนื่องจากมีการตรวจพบเครื่องรูดบัตรภายในห้องพักของกลุ่มผู้ก่อเหตุด้วย

และการเข้าไปตรวจค้นที่พักของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นชาวเวียดนามทั้งสามคน นอกจากตรวจยึดเสื้อผ้าของกลางที่สวมใส่ในวันก่อเหตุได้แล้ว พบเครื่องรูดบัตรอีกจำนวน 2 เครื่อง กระดาษปรินต์สลิปใบเสร็จจำนวน 109 ม้วน

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสามคนให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง โดยเหตุที่มาที่วัดโพธิ์ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และ หนาแน่นกว่าพื้นที่อื่น ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ตรวจสอบฐานข้อมูลว่านักท่องเที่ยวรายใดเข้ามาซ้ำๆ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นบุคคลต้องสงสัยหรือไม่