ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตั้งโต๊งแถลงยืนยันศาลไม่ได้อนุมัติออกหมายจับ ส่วนอำนาจการไต่สวนทั้งหมดเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. เชื่อเป็นการกระทำต้องการดิสเครดิต
วันนี้ (12 มี.ค.) เวลา 17.45 น. นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ ทนายความ พร้อมด้วยนายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.แถลงข่าวกรณีมีการขอศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับตำรวจ 4 นาย พลเรือน 1 คน หลังพิจารณาหลักฐานน่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน BNK Master ซึ่งมีรายชื่อของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ด้วย
โดยนายณัฐวิชช์ กล่าวว่า ทีมทนาย ได้รับมอบหมาย ให้แถลงเฉพาะในกรอบของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งข้อเท็จจริงวันนี้ มีคณะพนักงานสอบสวน ได้ไปยื่นคำร้องขอหมายจับ 1 ในนั้นคือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เฉพาะในกรอบคำสั่งนี้ ศาลได้มีคำสั่งยกคำร้อง คือไม่ออกหมายจับให้ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอศาลได้มีดุลพินิจว่า ไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับตามคำร้องได้ เรื่องนี้ มีการเผยแพร่ข้อเท็จจริงไปในทำนองว่า นอกจากศาลไม่อนุมัติหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แล้ว ศาลให้ออกหมายเรียก ได้ตรวจสอบแล้ว ศาลไม่ได้มีคำสั่งอย่างที่เผยแพร่และเข้าใจกัน ขออนุญาตเผยแพร่ให้เข้าใจ รับทราบร่วมกัน
โดยเมื่อศาลไม่อนุมัติให้ออกหมายจับ ในส่วนของขั้นตอนที่จะดำเนินการต่อไป หากพนักงานสอบสวนยังเห็นว่า ต้องดำเนินการต่อไป ทางทีมทนายได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เรามีความเห็นเป็นอย่างนี้ การที่พนักงานสอบสวนดำเนินการอยู่ ไม่ถูกต้องและไม่ชอบด้วยข้อกฎหมาย เหตุผลคือ ข้อเท็จจริงที่กล่าวหาพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้มีการส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.แล้ว และได้มีมติรับเรื่องไว้ไต่สวนแล้ว ซึ่งเชื่อว่า สื่อมวลชนก็น่าจะมีข้อมูลแล้ว ข้อเท็จจริงนี้เผยแพร่เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา เมื่อมีการส่งเรื่องให้ป.ป.ช.แล้วมีมติรับเรื่องแล้ว อำนาจการพิจารณาและไต่สวนว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีความผิดหรือไม่ จะอยู่ที่ ป.ป.ช.
ทั้งนี้ขออนุญาตย้ำข้อกฎหมายว่า อำนาจตรงนี้อยู่ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันการทุจริต ม.30 ประกอบ ม.28 อำนาจในการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ได้อยู่ที่พนักงานสอบสวนแล้ว หากพนักงานสอบสวนจะดำเนินการอย่างไรอย่างหนึ่ง ทีมทนายเห็นว่า พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจแล้ว หากดำเนินการต่อไป ทางทีมทนายเห็นว่า เข้าข่ายประเด็นปัญหา ปฏิบัติหน้าที่ชอบหรือไม่ชอบ ตาม ม.157 พนักงานสอบสวนต้องรับผิดชอบเอง เพราะทีมทนายได้รับหมายเรียกจาก ป.ป.ช.
สำหรับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการกระทำผิดที่มีการตั้งเรื่องและกล่าวหา ขอยืนยันว่า ไม่มีเส้นทางการเงินมาเกี่ยว ซึ่งเงินที่ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาไปดำเนินการเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เป็นเงินของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่เกี่ยวข้องเว็บพนัน เรื่องนี้ ได้ถูกส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.พิจารณา เพื่อไต่สวนแล้ว ส่วนคดีนี้ที่ไปยื่นเรื่องให้ศาลในวันนี้ เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวน ป.ป.ช. เรื่องนี้ได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวนแล้ว ว่า เป็นเรื่องเดียวกัน ซึ่งการไปยื่นคำร้องจนศาลมีคำสั่งว่า ไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอว่า จะออกหมายจับหากพนักงานสอบสวนจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อ ขออย่าอ้างศาล เพราะ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาแน่นอน หากมีการกระทำไม่เป็นไปตามข้อกฎหมาย ก็มีสิทธิไม่ยอมรับ และยืนยันดำเนินการตามสิทธิทุกช่องทาง
อย่างไรก็ตามการออกหมายจับในช่วงนี้ ทีมทนายความเข้าใจเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากเป็นการกระทำดิสเครดิต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะเป็น รอง ผบ.ตร.อาวุโส อันดับ 1 เป็นแคนดิเดตที่จะได้รับการพิจารณาแต่งตั้ง การออกหมายท่านในช่วงนี้ เป็นการเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง มีผลต่อการพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร. ที่จะเกิดในไม่กี่เดือนนี้ สำหรับเส้นทางการเงินนั้น ทีมทนายความ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นข้อเท็จจริงใหม่ หรือเส้นทางการเงินใหม่แต่อย่างใด