เตือนภัย คนร้ายย่ามใจขโมยของในบ้านทั้งๆ ขณะเจ้าของพร้อมญาติยังอยู่ในบ้าน 5คน แถมเดินชิลล์เหมือนบ้านตัวเอง
วันนี้( 11 มี.ค.)เมื่อเวลา 13.00 น.ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี นาย ดนุสรณ์ หรือนุ พุ่มมูล อายุ 30 ปี อาชีพช่างไฟฟ้า เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย กรณีมีชายวัยกลางคน ขี่รถจยย.ไม่ทราบทะเบียน แอบบุกรุกเข้าไปในบ้านแล้วหยิบเอาโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO จำสีไม่ใด้ ใส่เคสสีดำลายเตือนภัยเขตอันตราย ซึ่งเป็นของลูกน้องของตนโดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2567 เวลา 10.44น.ซึ่งในขณะเกิดเหตุมีคนนอนหลับอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน 4 คนและมีน้องผู้หญิงที่เหตุเหตุการณ์ก่อนโดนคนร้ายชี้หน้าและพยายามเดินเข้าหา โชคดีน้องเรียกเพื่อนคนร้ายจึงหนีออกไป.
นาย ดนุสรณ์ พุ่มมูล (นุ) เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ช่วง10โมงกว่าๆ มีคนร้ายขี่รถจยย.เข้ามาจอดที่หน้าบ้านของตนและเดินเข้ามาเหมือนบ้านของตัวเองเลยโดยที่ไม่ถอดหมวกกันน็อคออก ก่อนจะมามองตรงกระจกหน้าบ้านเหมือนว่าจะมองว่ามีใครอยู่ในบ้านไหม และก็เปิดประตูเข้ามาเลย ตอนนั้นมีน้องๆที่เป็นลูกน้องนอนอยู่ชั้นล่าง4-5คน และมีน้องผู้หญิงนั่งกินข้าวอยู่ในห้องครัว คนร้ายเหมือนจะมองหาของมีค่าแต่ที่บ้านไม่ค่อยมีอะไรวางอยู่เลยได้แค่โทรศัพท์มือถือไปเครื่องเดียว พอคนร้ายเดินเข้ามาน้องผู้หญิงเห็นก็เลยเดินออกมาจากห้องครัวแล้วถามว่าเข้ามาทำอะไร
คนร้ายถอดหมวกกันน็อคออกแล้วชี้หน้าน้องผู้หญิงแล้วทำท่าจุ๊ๆ ไม่ให้เสียงดัง พร้อมกับพยายามเดินเข้าหาน้องผู้หญิง แต่น้องผู้หญิงเรียกเพื่อนที่นอนอยู่ทำให้คนร้ายเดินกลับออกไปและขี่รถจยย.หนีไป พอมาดูกล้องวงจรปิดพฤติกรรมคนร้ายเหมือนไม่ความลุกลี้ลุกล้นเลย มองตามบ้านดูว่าหลังไหนไม่มีคนอยู่ก่อนเดินชิลล์ๆ เข้ามาเหมือนบ้านตัวเอง แถมตอนออกไปยังมองบ้านข้างๆอยู่เลย.สงสัยคงก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
น.ส.พลอย อายุ 17 ปี (ผู้เห็นเหตุการณ์) เล่าว่า ตนลงมาจากชั้นบนและเข้าไปกินข้าวในครัว ก็เห็นคนร้ายเปิดประตูเข้ามา ตอนนั้นเพื่อนที่เป็นผู้ชายนอนหลับกันอยู่ไม่มีใครตื่นเลยเพราะคนร้ายเข้ามาเงียบมาก ไม่ได้ยินเสียงหมุนลูกบิดประตูเลย พอตนเห็นจึงถามไปว่าเข้ามาทำอะไร เขาก็ไม่ตอบพร้อมกับถอดหมวกกันน็อคออกแล้วชี้หน้าตน และก็ทำมือจุ๊ๆ เหมือนให้ตนเงียบๆ ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ของเพื่อนที่นอนอยู่ พอได้โทรศัพท์เสร็จคนร้ายหันมาหาและจะเดินเข้ามาหาตน ตอนนั้นตนได้เรียกพี่คนนึงที่นอนอยู่ให้ตื่น คนร้ายจึงไม่กล้าเข้ามาและเกินกลับออกไป ตอนนั้นกลัวมากคิดว่าถ้าตนอยู่บ้านคนเดียวไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรกับตนบ้าง ตนไม่เคยเห็นหน้าคนร้ายมาก่อนและไม่คุ้นหน้าด้วย คิดว่าคงไม่ใช่คนแถวนี้