MGR Online - ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ ควง เลขา ส.ป.ก. ประชุมร่วม ปปง. หาช่องเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ-นายทุน ใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก.โดยมิชอบ ตามกฎหมายฟอกเงิน เผยเตรียมหมายจับ 2 เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา ผิด ม.157,149 พร้อมสอบเพิ่มเติมอีก 7 ราย พบนายทุน 1 รายแฝงตัวเกษตรกรถือครองที่ ส.ป.ก.
วันนี้ (11 มี.ค.) เวลา 09.30 น. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. พร้อมด้วย นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมายและโฆษกประจำ ปปง. หารือร่วม นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กรณีตรวจสอบพบว่ามีเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร หรือบุคคลบางคนหรือบางกลุ่ม กระทำความผิดในเขตปฎิรูปที่ดิน เช่น การลักลอบขุดดินเพื่อนำออกจำหน่าย และการใช้ประโยชน์ในที่ดินผิดวัตถุประสงค์ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อหารือแนวทางตรวจสอบทรัพย์สินและยึดทรัพย์กับผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทุจริตทั้งหมด ตามกฎหมายฟอกเงิน
นายธนดล กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ 3 จุด ใน ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พบความผิดปกติของเจ้าหน้าที่รัฐ และเตรียมออกหมายจับ 2 ราย ความผิดมาตรา 157 และมาตรา 149 ในสัปดาห์นี้ พร้อมสอบสวนเพิ่มเติมอีก 7 รายว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ส่วนเกษตรกรเบื้องต้นพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง 4-5 ราย ในขณะนี้แต่มี 1 รายที่มีพฤติการณ์แอบแฝงน่าจะเป็นนายทุนเพราะมีกำลังทรัพย์ ถือครองอยู่ 1 จุด ส่วนนักการเมืองยังตรวจสอบไม่พบ
นายธนดล กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินคดีนั้น ตำรวจ ปปป. ทำการสอบพยานบุคคลผู้ที่ได้รับจัดสรรที่ดินและผู้นำท้องถิ่นเรียบร้อยแล้ว รวมทั้ง การกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม โดยแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันมีลักษณะเป็นการค้า ซึ่งเข้าองค์ประกอบเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (15) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็น เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน และขยายผลหานายทุนตัวจริงให้ได้โดยเร็ว
ด้าน นายวิณะโรจน์ ระบุว่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญกับการดูแลที่ดิน ส.ป.ก. ให้เป็นตามบทกำหนดและการครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา มีการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดิน และมีการตั้งอนุกรรมการตรวจสอบคดีนี้ร่วมกับ 9 หน่วยงาน ทั้ง ปปง. , ป.ป.ช. , ป.ป.ท. , สำนักงานอัยการสูงสุด , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานดูแลที่ดินของรัฐ ร่วมเป็นคณะกรรมการ ก่อนพิจารณาออกแนวทางมาบังคับใช้กฎหมายโดยเร็ว พร้อมดำเนินการลงโทษทั้งผู้ให้และผู้รับ คือ เจ้าหน้าที่รัฐ และนายทุนผู้แสวงหาที่ดินโดยมิชอบ
ส่วน นายวิทยา เผยว่า สำหรับการร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐและนายทุน ตามความผิดมูลฐานการฟอกเงิน ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง โดยเป็นการนำทรัพยากรธรรมชาติมาทำเพื่อประโยชน์ทางการค้า ส่วนของการยึด ถือ ครอบครองที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กฎหมายจะคุ้มครองพี่น้องเกษตรกรที่เข้าไปทำประโยชน์เกษตรกรรมจริงๆ ที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย