“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 2567 ตอน ไทยจัดแข่งรถ F1 ขายฝันหรือเอาจริง สนามพร้อมแต่เงินไม่มี
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินสายต่างประเทศรอบโลกถี่ยืบประหนึ่งไปซื้อของตามร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอย ล่าสุดเดินทางร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 4-6 มีนาคม และเดินทางเยือนเยอรมันและประเทศฝรั่งเศส
นัดหมายสำคัญของการเดินทางครั้งนี้นอกจากการประชุมเพื่อหารือกับผู้นำหลายประเทศในด้านการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมีการพบกับผู้บริหารภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ประเทศฝรั่งเศสด้วย เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการจัดแข่งขันรถสูตรหนึ่ง หรือ F1 ในประเทศไทย ซึ่งการหารือในเรื่องอย่างหลังนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
การแข่งขันฟอร์มูลาวัน ถือว่าเป็นสุดยอดและทื่สุดของการแข่งขันในกีฬามอเตอร์สปอร์ต มีคนติดตามการแข่งขันดังกล่าวทั่วโลก แทบไม่ต้องนับว่าเลยมีเม็ดเงินในตลาดการแข่งขันฟอร์มูลาวันมหาศาลขนาดไหน โดยประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่เคยจัดฟอร์มูลาวัน คือ มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ซึ่งสามารถดึงนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามาได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังทำให้ชื่อของทั้งสองประเทศกลายเป็นที่สนใจระดับโลก
สำหรับประเทศไทย อาจจะเคยดึงรถสูตรหนึ่งมาวิ่งโชว์ในประเทศบ้างตามถนนสายสำคัญในเมืองหลวงอย่างถนนราชดำเนิน แต่นั่นก็ไม่ใช่ลักษณะของการแข่งขันอย่างเป็นทางการ โดยที่สุดของกีฬาความเร็วที่ไทยเคยเป็นเจ้าภาพ คือ การจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อปี 2561
จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นทำให้หลายฝ่ายเรียกร้องว่าประเทศไทยควรมีการต่อยอด เพื่อนำไปสููการจัดสุดยอดกีฬาความเร็วอย่างF1 แต่ดูเหมือนว่ากระแสก็เงียบหายไป เพราะลำพังจะให้ภาคเอกชนเป็นแม่งานแบกรับค่าใช้จ่าย ก็คงไม่ไหว แม้ว่า สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จะมีมาตรฐานพอสำหรับการจัดF1 ก็ตาม
ในเรื่องนี้ครั้งหนึ่ง 'เนวิน ชิดชอบ' ในฐานะผู้บริหารสนามดังกล่าว เคยบอกถึงตัวเลขของการจัดแข่งF1ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าลิขสิทธิ์ปีละประมาร 1,200 ล้านบาท และถ้ารวมงบประมาณด้านอื่นๆที่ใช้สำหรับการจัดการแข่งขันเข้าไปด้วย จะคิดเป็นเงินมากถึงประมาณ 1,500 ล้านบาท
เม็ดเงินจำนวน 1,500 ล้านบาทต่อปีเป็นตัวเลขที่เนวินเคยบอกเอาไว้เมื่อปี 2561 แต่ผ่านมาถึงปัจจุบันประมาณ 6 ปี แน่นอนว่าเงิน 1,5000 ล้านบาท อาจจะไม่พอสำหรับการจัดแข่งรถสูตรหนึ่งแล้วอย่างแน่นอน
จริงอยู่เม็ดเงินของการจัดแข่งรถ ภาคเอกชนไม่ได้เป็นผู้แบกรับแต่ฝ่ายเดียว เนื่องจากต้องมีเม็ดเงินจากผู้สนับสนุนต่างๆ เข้ามาสมทบด้วย แต่ปัญหาอยู่ที่รัฐบาล โดยเฉพาะการกีฬาแห่งประเทศไทยย่อมจะหาเงินจากตรงไหนมาร่วมลงขันกับภาคเอกชน ที่สำคัญในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้การเอางบประมาณของภาครัฐมาใช้ในลักษณะนี้ย่อมถูกเพ่งเล็งถึงความเหมาะสมอีก
ไม่มีใครปฏิเสธว่า Sport Entertainment หรือ กีฬาเพื่อความบันเทิง เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจจำนวนมหาศาล ซึ่งมีหลายประเทศประสบความสำเร็จมาแล้ว แต่งานระดับอภิมหายักษ์อย่างการแข่งรถF1 ยังคงเป็นคำถามว่าการบริหารแบบไทยๆ จะนำพาไปรอดหรือไม่ เพราะขนาดการจัดโมโตจีพีในประเทศไทยที่เคยสร้างชื่อมาก่อนหน้านี้ ทุกวันนี้ก็ยังกระท่อนกระแท่น เนื่องมาจากขาดเม็ดเงินสนับสนุนจากภาครัฐ หลังจากเอกชนไม่อาจเป็นเดอะแบกได้อีกต่อไป
------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
